http://www.google.co.th/imglanding?q=%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1&imgurl=http://www.toptenthailand.com/images/rank/r_646.jpg&imgrefurl=http://www.toptenthailand.com/display.php%3Fid%3D73%26sort%3Dasc&h=444&w=324&sz=16&tbnid=9o-v1yDBCRtxgM:&tbnh=263&tbnw=192&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%2593%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A1&hl=th&usg=__XHftYCDmJplznMzKNdSSez4qaC0=&sa=X&ei=zYFhTLubAY2IvgOjt6yZCQ&ved=0CBkQ9QEwAA&start=0#tbnid=pX-rRLte455X-M&start=507
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2010, 11:29:15 AM »
--------------------------------------------------------------------------------
เปิดใจ “เสธ.ไก่อู” ผู้พันเจ้าเสน่ห์..ที่แรงเกินห้ามใจ !!
กลายเป็นผู้ชายที่ฮอตฮิตอย่างไม่แคร์ใครเพราะแม้แต่พี่เคน – ธีระเดช ยังต้องชิดซ้าย พี่มาร์ค-อภิสิทธิ์ ยังต้องชิดขวา หลังออกมาจ้อผ่านหน้าจอในช่วง 2 เดือนกว่าที่ผ่านมาท่ามกลางความวุ่นวายของบ้านเมือง “พี่ไก่อู หรือเสธ.ไก่อู – พ.อ. สรรเสริญ แก้วกำเนิด” หรือที่ใครหลายคนในโลกไซเบอร์ต่างตั้งฉายาให้อย่างมากมายทั้ง “ผู้ก่อการรัก” หรือ แม้แต่การนำเอาชื่อย่อ ศอฉ. ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน มาแปลงเป็นชื่อ “ศูนย์ไก่อูฉกหัวใจ” หรือแม้แต่มีการเปิดหน้าแฟนเพจในสังคมออนไลน์อย่าง Facebook ให้กับคนที่ชื่นชอบเสธ.ไก่อู โดยเฉพาะได้เข้ามารวมกลุ่มกันจำนวนหลายแฟนเพจซึ่งล้วนมีสมาชิกนับหมื่นราย...
...และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ จุดๆ นี้เสธ.มหาเสน่ห์ที่เรียกสั้นๆว่า “พี่อู” ได้กระชับวงล้อมหัวใจของบรรดาสาวแก่ แม่หม้าย สาวน้อย สาวใหญ่ สาวแท้ สาวเทียม ผู้หญิงข้ามค่าย ผู้ชายข้ามเพศ ไม่เว้นกระทั่งผู้ชายแม๊น แมน ที่เสธ.ขวัญใจแม่ยกคนนี้ได้เข้าไปครอบครองพื้นที่หัวใจจนใครหลายคนไม่อยากจะให้ขอคืนพื้นที่ก็ตาม…
ดังนั้น ASTVผู้จัดการจึงไม่พลาดที่จะพาบรรดาแฟนคลับทั้งหลายไปรู้จักตัวตนเจ้าของศูนย์ไก่อูฉกหัวใจ ตัวจริง เสียงจริง ลึกแบบทุกซอกทุกมุม ชนิดที่แฟนคลับอ่านแล้วฝันหวานได้ 10 ตลบแล้วจะหาว่าไม่เตือนว่าแล้วก็อย่าช้าตามมาดูกัน...
** พื้นเพเป็นคนที่ไหน
ผมเกิดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตอนเด็กๆ ก็ไปเรียนโรงเรียนสิงคนาถ ซึ่งเป็นโรงเรียนในกองบิน 53 ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นกองบิน 5 แล้วโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่อยู่ชายทะเล ใส่หมวกกะโล่ ใช้ดินสอหิน กระดานชนวน แต่พอหลังจากที่ผมออกจากโรงเรียนมาแล้วปรากฏว่าเขาเลิกกิจการโรงเรียนไปเลย เรียนแบบตามคุณย่าไปโรงเรียนคือไม่ได้เรียนแบบเป็นเรื่องเป็นราวมาเริ่มเรียนเป็นเรื่องที่เป็นราวที่โรงเรียนอรุณประดิษฐ์ ที่เพชรบุรี ตั้งแต่ป.1 – มศ.1 อยู่กับคุณป้า คุณย่า ผมไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ตั้งแต่เด็กๆ
** ถามได้ไหมว่าทำไมถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ที่บ้านมีลูก 3 คน ไก่โรส คนโต น่าจะย่อมาจากโรสไอแลนด์ ประมาณนี้ ไก่โรส ไก่อู ไก่งวง 3 คน คุณพ่อผมเป็นตำรวจแต่ไม่ได้เป็นตำรวจจบมาจากโรงเรียนนายร้อยสามพราน เพราะฉะนั้นคุณแม่เป็นครูฐานะก็ไม่สบายตัวนัก เพราะฉะนั้นก็แบ่งลูกคนกลางมาให้คุณปู่ คุณย่า คุณป้า ช่วยเลี้ยงดู ก็เลยไปอยู่กับคุณย่า คุณป้า ผมจึงเรียกคุณย่าว่าแม่ แล้วก็เรียกแม่กับพ่อว่าพี่ ก็คือพี่ณุ กับพี่แต๋ว
** ทำไมที่บ้านถึงตั้งชื่อลูกว่าไก่หมดเลย
คุณปู่เป็นคนตั้งนะครับ แต่จริงๆ ผมไม่ชอบชื่อไก่เฉยๆ นะมีหลายคนพยายามเรียกพี่ไก่ พี่ไก่ ผมไม่ชอบชื่อไก่ มีความรู้สึกเหมือนมันโหล
** มีที่มาที่ไปไหมคะ
ที่บ้านตอนอยู่ประจวบฯคงเลี้ยงไก่นะครับ แต่ว่าอย่างไก่โรส ไก่งวงนี่เขาดูเป็นไก่ต่างประเทศหน่อย ไก่อูก็บ้านๆ (หัวเราะ) จริงๆผมไม่ได้เอารูปมาให้ดูจะเห็นว่าตอนเด็กๆ ผมเคยถ่ายรูปกับพี่ๆ น้องๆ แล้วมีความรู้สึกตอนเด็กๆเนี่ย หลายคนเคยเล่าให้ฟังว่า เหมือนผมถูกเก็บมาเลี้ยง คือเขาแหย่เล่นอ่ะ เขาแหย่เล่น ว่าเด็กเก็บมาเลี้ยงหรือเปล่า อะไรประมาณนี้ เราก็คิดว่าเอ้...จริงหรือเปล่า เพราะไปดูรูปตัวเองเมื่อเปรียบเทียบกับพี่ๆ น้องๆ แล้วมันผิดแผกแตกต่างจากเขา คือไก่โรส ไก่งวง เขาอยู่กับพ่อแม่เขาจะใส่กางเกงสแล็คที่แบบมันกรอมขาพอดี แล้วเหลือแต่โผล่แต่ส้นมาหน่อยเดียว เสื้อที่เขาใส่ถ่ายรูปก็จะเป็นเสื้อเชิ้ตโปโล เป็นเสื้อยืดนะครับแต่เป็นเสื้อยืดแบบมีปก ส่วนของผมนี่มาจากเพชรบุรี เพราะฉะนั้นไอ้กางเกงมันก็จะไม่พอดีแบบไก่โรส ไก่งวงเขา มันยกรั้งอ่ะ แล้วขามันลอยน้ำด้วย ขาบานๆ หน่อยๆ ลอยน้ำ ส่วนเสื้อก็เป็นเสื้อยืดคอกลม แล้วที่สำคัญคือไก่โรส ไก่งวง เขาจะไว้ผมทรงนักเรียนที่มันมีข้างหน้าหน่อยนึง ส่วนไอ้ของผมนี่ตัดสั้นแล้วมันมีขวัญข้างหน้ามันก็เลยเหมือนผมแหว่งอ่ะ พอดูสารรูปตัวเองแล้วเปรียบเทียบกับไก่โรส ไก่งวงแล้วทำไมกูอาภัพอย่างนี้ว่ะ (หัวเราะ)
** ตอนนี้พี่ชายกับน้องชายทำอะไรอยู่
พี่ชายไก่โรส เมื่อก่อนเขาเป็นทหาร เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่รุ่นที่ 21แล้วก็ปัจจุบันเขาลาออกไปแล้ว ไปประกอบอาชีพส่วนตัว ส่วนไก่งวงเขาก็ประกอบอาชีพในลักษณะของการเป็นพวกช่าง ลักษณะแบบนี้
** ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องเป็นยังไง
ก็ปกตินะ ปกติแต่ถือว่าไม่สนิทกันเหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ โดยทั่วไป อาจจะเป็นเพราะว่าเราได้อยู่ด้วยกันน้อย เพราะไก่ไรสไก่งวงเขาอยู่กับพ่อแม่ ส่วนผมอยู่กับคุณป้าคุณย่า เพิ่งมาอยู่รวมกับพ่อแม่ตอนมศ.2 ที่ย้ายเข้ามาในกรุงเทพฯ แล้วก็ไก่โรสเขาเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะ ส่วนผมเรียนโรงเรียนรัตนาธิเบศร์ ก็เป็นโรงเรียนวัดบางขวางอ่ะ ที่นนทบุรี เรียนจนถึงมศ.3 แล้วไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารปรากฏว่าสอบไม่ได้ ก็หงอยกลับมา พอมาเรียนมศ.4 ก็ไปสอบอีกครั้งนึง เพราะตอนเด็กๆ ผมไม่ได้เรียนกวดวิชาแต่ยังรู้สึกเสียดาย แหม..ทำไมเราไม่ได้เรียนกวดวิชามั่ง แม่ก็อธิบายให้ฟังว่า ไม่มีสตางค์ แต่ตอนไก่โรสอ่ะที่เขาสอบได้ เขามีโอกาสได้เรียนกวดวิชาแต่ว่าเศรษฐกิจมันก็ช่วงไก่โรสจะสอบเข้านี่แม่ก็พอจะมีสตางค์อยู่บ้าง พอมารุ่นไก่อูไม่มีสตางค์ก็เลยต้องสอบ 2 ปี (เสียงสูง)
** เป็นคนเรียนเก่งไหม
ตอนอยู่ที่อรุณประดิษฐ์ก็ได้ที่ 5 ที่ 6 แต่พอมาอยู่โรงเรียนรัตนาธิเษศร์ได้ที่ 1 ก็ไม่รู้มันได้ที่ 1 ได้ยังไง มีความรู้สึกเหมือนแบบอืม..มาตรฐานที่โน้นกับที่นี่ ได้ที่ 1 แต่ที่ 1 โรงเรียนต่างจังหวัด แม่ก็เคยบอกเสมอการเลือกเรียนอะไรก็ให้ดูให้ดีเพราะตอนแรกผมอยากเรียนหมอเหมือนกัน มีความรู้สึกว่าตัวเราเก่งไง แม่ก็บอกให้สติ บอกว่าเก่งนี่คือภายในโรงเรียนเดียวกันนะแต่ถ้าไปเทียบกับคนทั้งประเทศอาจอยู่สุดลูกหูลูกตาเลยงั้นอย่าประมาทอะไรที่สอบได้เอาไว้ก่อน แล้วก็หลวงออกทุนเรียนให้ก็เรียนไอ้นั้นเถอะ เพราะว่าไม่ค่อยมีตังค์กัน ก็เลยเรียนโรงเรียนตรียมทหาร
** สอบได้ที่ 1 ทุกปีไหมคะ
ได้ทุกปีครับ ได้ทุกปีตั้งแต่มศ.2, 3 และก็ 4 แล้วก็ไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมฯ ไม่ได้เรียนกวดวิชาแต่ว่าภาษาอังกฤษ ผมอ่อน ในช่วงนั้นผมอ่อน ผมก็ใช้วิธีใหม่ก็คือไปซื้อหนังสือ เขาเรียกเคล็ดลับวิชาภาษาอังกฤษเล่มบางๆ 3 เล่ม ของอาจารย์ธง ลีพึ่งธรรม ซึ่งเขาขายอยู่ที่สนามหลวงมันจะมีไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ มี Tense แล้วก็มีอะไรซักเรื่องนึงผมจำไม่ได้ ก็ใช้วิธีการท่อง ท่องอย่างเดียว เช่น เจอคำศัพท์ตัวนี้ต้องตามด้วย Gerund แล้วก็ If Clause If บวก present บวก present If บวก present แล้ว บวก future บวก past perfect บวก perfect continuous อะไรแบบนี่ ก็คือจำอ่ะ จำเลยเพราะว่าเราไม่ได้เรียนมาแบบเด็กที่คนอื่นเขาเรียนภาษาอังกฤษกันแบบความเข้าใจก็ต้องใช้วิธีแบบนั้นแล้วก็ท่องเอา ก็ถือว่าโชคดีสอบเข้าได้
** ชีวิตในโรงเรียนนายร้อยเป็นยังไงบ้าง
เป็นลูกหาบเขาตลอด เป็นลูกหาบเขาตั้งแต่ปี 1 จนกระทั่งถึงปี 4 ตอนปี 1 เคยไปเป็นนักร้องลูกทุ่งโรงเรียนนายร้อยอยู่พักนึงซึ่งหัวหน้าหมู่ตอนนั้นก็คือนักเรียนนายร้อยปี 5 ที่เขาเป็นนักเรียนบังคับบัญชาเขาชื่อนักเรียนนายร้อยสัจจะ สุนทรธีมากร ปัจจุบันรู้สึกท่านจะรับราชการอยู่ที่กองบัญชาการทหารพัฒนาอยู่ที่ใต้ ท่านก็บอกว่ามึงเอาดีไม่ได้เรื่องลูกทุ่งมึงอย่าไปสีซงสีซอ มือถือไมค์ไฟส่องหน้าเลย (หัวเราะ) มาเป็นทหารเต็มตัวนี่ ประมาณนี่ก็เลยต้องออกจากวงดนตรีเพราะว่ามันมีระบบการซ่อมกันของโรงเรียนนายร้อยแต่ว่าเขาก็มีเหตุผลของเขาในการที่จะมีระบบการซ่อมเพราะว่าจะทำให้คนที่ผ่านระบบนี้สามารถที่จะตัดสินใจตกลงใจหรือทำอะไรก็ได้ ที่อยู่ภายใต้ภาวะสภาพกดดันเขาคงเป็นการเตรียมการว่าคนที่จบโรงเรียนนายร้อยมาวันข้างหน้าอาจจะต้องไปคุมหน่วยทหารอาจจะต้องเจอสถานการณ์ตามแนวชายแดนสามารถที่จะพากำลังพลของเราให้รอดปลอดภัยตกลงใจในสิ่งที่ถูกต้องภายใต้สภาวการณ์ที่ได้รับการกดดันได้
** โดนซ่อมบ่อยไหมคะ
ประจำเลยครับ ประจำ(ยิ้ม) ผมเป็นลูกหาบเขามาโดยตลอดจนกระทั่งถึงปี 5 นี่ ถึงได้เป็นหัวหน้าหมวด
** แล้วตอนที่ไปร้องเพลงลูกทุ่ง ชื่นชอบนักร้องคนไหน
สมัยก่อนมันไม่ค่อยมีอะไรให้เลือกมาก มันมีแกรนเอ็กซ์ แล้วก็มีสุนทร สุจริตฉันท์ อ่ะ รอยัลสไปรท์มีอยู่แค่นี้ ไม่มีอะไรแล้ว นอกเหนือจากนั้นก็กาเหว่าเสียงทอง, ศรคีรี ศรีประจวบ, ไพรวัลย์ ลูกเพชร มันก็ได้ฟังอยู่อย่างนี้แล้วก็บ้านตามจังหวัดนะครับเวลาไปโรงเรียนเขาเรียกมาร้องเพลงหน้าห้องมันก็ต้องร้องเพลงลูกทุ่ง มันไม่มีเพลงอย่างอื่นเลยที่จะไปร้องได้
** ก็เลยต้องเสียงดีพอสมควร
อุ้ย..เสียงดีครับ (ยิ้ม) แต่วันนี้เสียงไม่ดีเพราะว่าเป็นหวัด และคนพออายุมากขึ้นก็ไม่ได้ร้องเพลงทุกวันไม่ได้ออกกำลังกายก่อนเสียงมันจะเปลี่ยนไป ถ้าสมมติว่าตอนอายุขนาดนี่ (เท่าคนสัมภาษณ์) ถ้าวันไหนมีงานที่จะต้องได้ร้องเพลงรีบออกกำลังกายตอนเช้าเพื่อให้มันร้อน ให้เหงื่อมันออกมีความรู้สึกว่าเสียงมันจะใสขึ้นเพราะฉะนั้นเกิดไม่มีอะไรก็ปกติ
** มีเพลงโปรดไหมคะ
มีเยอะหลายเพลงครับ คือใครเสียงดีชอบหมด
** เอาแบบที่นึกถึงเป็นเพลงแรกที่จะต้องร้องเพลงนี้ให้ได้
มันมีอันนี้อยู่อันนึง (หยิบไอโฟนขึ้นมาประกอบ) ที่อัดเอาไว้ แต่เขาไม่ใช่นักร้องเขาเป็นดาวตลกชื่อคุณสีหนุ่ม (เชิญยิ้ม) ก็ร้องเพลงพิษรัก พิษณุโลก เคยฟังไหมครับ
** ใช้โทรศัพท์กี่เครื่องคะ
มีโทรศัพท์อยู่ 3 เครื่องครับ อันนี้เป็นเครื่องที่ผมใช้มาตลอด 929 xxxx ซึ่งเขาไปโพสต์บนอินเทอร์เน็ตก็จะมีคนด่ามามากมายก่ายกอง คนชมก็เยอะ คนแสดงความคิดเห็นก็มาก และก็มีเครื่องหลวงอันนึง เครื่องหลวงก็คือโทรฟรี ไม่เสียตังค์ และอีกอันดีแทคเขาให้เบอร์มาสำหรับที่ไม่พร้อมจะตอบคำถามสื่อมวลชนหรือคนด่ามาก็ปิดหมดทุกเครื่องแล้วก็เปิดอันนี้ไว้(ยิ้ม)
บันทึกการเข้า
มาดามเฟ
Administrator
Hero Member
กระทู้: 9787
โปรโมทเว็ปไซด์แนะนำติดต่อทำadsกับทางgoogleได้ผลมาก
Re: เปิดประวัติ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.และบทสัมภาษณ์
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2010, 11:30:43 AM »
--------------------------------------------------------------------------------
เป็นคน High เทคโนโลยีไหมคะ
Low เทคฯที่สุดในโลก ใช้ไอโฟนเท่าที่สามารถใช้ได้ดูเมล์ ดูเว็บไซต์อะไรทั้งหลายก็ได้แต่ถ้าอิเล็กทรอนิกส์มากไปกว่านั้นก็ไม่ค่อยถนัด
** อย่างเป็นโฆษกศอฉ.จำเป็นมากมายแค่ไหนที่จะต้องเรียนรู้เทคโนโลยี
ผมว่าจริงๆโดยทั่วไปเขาจะต้องเรียนรู้กันนะ แต่ด้วย 47 ฤดูฝนแล้วอ่ะมันไม้แก่เกินแกง ฉะนั้นสิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารก็คือเรื่องของดูทีวีซึ่งมันเป็นข้อมูลข่าวโดยเฉพาะข่าววันใหม่ซึ่งมันจะต้องเริ่มประมาณซักเที่ยงคืนครึ่ง กว่าจะจบก็ตีหนึ่งครึ่งถึงตีสอง อันนั้นขาดไม่ได้ อันที่ 2 ก็คือฟังรายการข่าววิทยุตอนเช้าซึ่งเขาจะมีประเด็นสรุปนำเสนอทั้งวันรวมทั้งแนวความคิดอะไรก็แล้วแต่ที่สังคมเขาอยากรู้แล้วเขาไม่ชื่นชอบในแต่ละเรื่องแต่ละวันอันนั้นจะเป็นหลักแต่หนังสือพิมพ์ไม่ได้อ่านเพราะมีเวลาน้อยถ้าโดยปกติไม่ค่อยกล้าอ่านด้วยมีความรู้สึกว่ากรมฝ่ายเสนาธิการที่ผมทำงานนี่ จริงๆหน้าที่ตำแหน่งหลักคือผู้อำนวยการกองปฏิบัติการจิตวิทยา มันมีงานเยอะอยู่แล้วถ้าเราจะอ่านหนังสือพิมพ์กลัวน้องๆเขาจะหาว่า อึ้ย..มึงว่างมากหรือวะ (ยิ้ม) ก็เลยไม่ค่อยกล้าอ่าน เอามาก็เปิดๆ ดูหน่อยแล้วก็ส่งออกไปข้างนอก
** ย้อนกลับไปถามตอนที่เรียนโรงเรียนนายร้อยทำไมถึงเลือกเหล่าทหารม้า
ตอนเป็นนักเรียนนายร้อยนี่มีข้อมูลน้อยมากในการที่จะเลือกเหล่าซึ่งผมก็ได้เคยคุยกับบรรดาพี่ๆน้องๆกันว่า ตอนที่นักเรียนนายร้อยจบเราน่าจะมีการชี้แจงทำความเข้าใจถึงเหล่าที่จะลงให้มันมากกว่านี้ น้องๆจะได้มีข้อมูลตกลงใจ สมัยผมคนที่เรียนหนังสือเก่งก็มักจะเลือกเหล่าทหารม้า ทหารปืนใหญ่ ทหารช่าง และก็ทหารราบในที่ดีๆ ผมก็เลือกตามเขาไม่รู้จักหน่วยอะไรที่ไหนเพียงแต่ว่าเราย้ายจากประจวบ เพชรบุรี มาอยู่เมืองนนท์กันหมดแล้วไม่มีญาติพี่น้องที่แบบสนิทชิดเชื้อจนถึงขนาดต้องไปอยู่กับเขาได้ที่ไหนอีก ก็เลยเลือกอะไรก็ได้ที่ไม่เกินรังสิต เอาแผนที่มากางดู ก็พอดี เสธ.แดง ขัตติยะ (สวัสดิผล) ตอนนั้นเขาเป็นอาจารย์พิเศษที่โรงเรียนนายร้อยก็มาชวนให้ไปอยู่ม.พัน 3 บอกว่าม.พัน 3 ดี (กองพลทหารม้าที่ 3 ) เขาเป็นกองพันที่อยู่กรุงเทพฯ ก็ไปถึงวันแรก ก็ผู้พันชื่อท่านพันโทสุริยา สกุลชาติ รองผู้พันก็พันตรีไตรรงค์ อินทรทัต เสธ.ไอซ์ ก็จะอยู่ในแวดวงพี่ๆน้องๆ กัน แต่ผมประทับใจในพี่ไอซ์นะ ผมประทับใจในพี่เขา เขาเป็นพี่ที่ดูแลทั้งเรื่องของส่วนตัว และก็แนวทางของการทำงาน ผมจำได้เสมอว่าพี่ไอซ์จะเคยสอนว่าคนเป็นน้องที่ดีเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี เวลาเขามอบหมายงานให้ไปแล้วนี่ต้องไปทำให้เสร็จให้สำเร็จอย่าเอาปัญหามาเล่าให้ฟัง ประเภทที่แบบมีปัญหาทุกเรื่องทำอะไรไม่ได้เลย อย่ามาเล่าให้เขาฟัง ถ้าจะกลับมาเล่าหมายความว่าต้องมีข้อเสนอแนะมาด้วย แล้วอะไรที่เห็นว่าทำได้ที่เป็นข้อเสนอของเราแล้วไม่ติดขัดก็ทำไปเลยแต่ถ้าข้อเสนอของเราไม่มั่นใจว่าจะถูกใจผู้ให้งานหรือเปล่าก็อาจจะมาถามเพื่อเป็นแนวทางซะหน่อยนึง กับเรื่องที่ 2 คือเรื่องความซื่อสัตย์เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่พี่ไอซ์เคยสอนไว้ว่าน้องที่มีความซื่อสัตย์ต่อพี่หรือผู้ใต้บังคับบัญชามีความซื่อสัตย์ต่อผู้บังคับบัญชาอยู่ที่ไหนก็เจริญ ไม่ว่าจะใครมาใครไปเขาก็ยังอยากใช้บริการจากเราทั้งสิ้นถือเป็นแนวทางรับราชการที่ดีที่ผมยึดถือโดยตลอด
** เห็นว่าเสธ.แดงมาชวนคงสนิทกัน
พี่แดงสนิทกับทุกคน พี่แดงเป็นพี่ที่เล่าเรื่องเก่งเวลาที่แกไปสอนหนังสือที่โรงเรียนนายร้อยเด็กก็จะไม่หลับเพราะส่วนใหญ่นักเรียนนายร้อยนี่เรื่องหลับมันเป็นเรื่องสามัญเป็นยาสามัญประจำบ้านจะขาดไม่ได้แต่ก็ไม่ใช่ทุกปีนะครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นปี 1 ที่ถูกซ่อม..หนักไปอยู่ที่ไหนก็พร้อมหลับตลอด แต่ถ้าพี่แดงมาสอนนี่ความหลับมันก็มีน้อยหรือไม่มีเลยเพราะว่าแกลงเนื้อหาน้อยหรือไม่มีเลยแกเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับประสบการณ์ซะเยอะ สมัยแกอยู่ใต้ อยู่ตามแนวชายแดน อะไรแบบนี่ แล้วพี่แดงจะเป็นคนเล่าเรื่องเก่ง ก็สนิทกันครับ
** ตอนนี้ข่าวคราวของเสธ.ในหนังสือ ในสื่อต่างๆดังมาก
(ยิ้ม).. ผมยังสงสัยอยู่เลยว่ามันดังได้ยังไง เพราะว่าผมทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่ตอนโฆษกคมช. ซึ่งในตอนคมช.ทหารมารับภาระทั้งประเทศด้วยซ้ำแล้วก็การชี้แจงเสียงพูดมันก็คนๆเดิม ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนแปลง ผมมานั่งนึกเอาอาจจะเป็น 2 กรณี กรณีที่ 1 เรื่องคมช.ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องของการปกครองแต่ว่าความเดือดร้อนมันไม่เกิดขึ้นที่ตัวประชาชนทั่วไป กับ 2 การชี้แจงส่วนใหญ่จะเป็นการแถลงข่าวแต่ว่าพอมาศอ.รส.มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความทุกข์ยากของคนที่เกิดขึ้นจริงเขาสัมผัสได้ กับ 2 ผมออกทีวีบ่อยเพราะว่าเราจัดข้อมูลข่าวสารบ่อยอยู่ในช่วงบังคับดู คือพอหมุนไปช่วงไหนก็จะตลอด โดยเฉพาะช่วงละครหลังข่าวซึ่งก็นึกอยู่เหมือนกันว่าป่านนี้คงด่าพ่อล่อแม่เราเรียบร้อย เขาอยากดูละครแต่ต้องมาดูเราก็อาจจะเป็นเรื่องนี้
** รู้สึกยังไงที่มีคนตั้งแฟนคลับพี่ไก่อู มีแฟนเพจมากมายใน Facebook
ธรรมดาครับ มนุษย์ปุถุชนก็ต้องดีใจแต่จริงๆแล้วนี่เรื่อง Facebook นี่คนที่เขาเปิดให้คนแรกรู้สึกว่าจะเป็นรุ่นน้องที่ทำงานที่กองฯ นี้ จุดประสงค์ของเราเปิด Facebook ต้องการดูผลสะท้อนกลับมาว่าสิ่งที่เรานำเสนอข้อมูลไปนี่ สังคมได้รับรู้รับทราบข้อมูลหรือเปล่าเพียงแต่ว่ามุมมองที่สะท้อนกลับมามันอาจจะเป็นเรื่องของความชื่นชมแต่มันก็พอจะพาดพิงวัดผลได้ว่าข้อมูลที่เราส่งไปถึงประชาชนนั้นเขาได้รับมีความเข้าใจมากน้อยขนาดไหน
** คิดยังไงกับฉายาที่เขาตั้งให้ “ผู้ก่อการรัก” หรือ “ศูนย์ไก่อูฉกหัวใจ”
(ยิ้ม) ถ้าเป็นทหารมันดูเป็นคำแบบเนยๆ อ่ะ มันเนยอ่ะ (หัวเราะ)
** เนยยังไง
มันเลี่ยนๆ แต่ว่าก็เป็นความปรารถนาดีของพี่ๆน้องชาวอินเทอร์เน็ตก็ถือว่ามีคนรักดีกว่ามีคนเกลียดครับ
**ไปไหนมีคนกรี๊ดไหม
ผมไม่มั่นใจอ่ะ เพราะว่าก่อนหน้าตั้งแต่คมช.มาเนี่ยเวลาไปเดินห้าง เวลาไปเดินที่ไหนก็แล้วแต่นี่ก็จะคนเขาซุบซิบกันแล้วก็หันมามอง ผมก็ไม่มั่นใจว่าเขาพูดในทางที่ดีหรือว่าเขาด่าเราอยู่ เพราะงั้นคุณป่าเคยเล่าให้ฟังตอนเด็กๆว่า เป็นคนไทยควรจะต้องมีอัธยาศัยไมตรี มีความเอื้ออาทรต่อกันเพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้เขาวิพากษ์จนเราได้ยิน เราก็ต้องหันไปยิ้มกับเขาก่อนแล้วก็พยักหน้า จะบอกว่าใช่ครับ ๆไม่รู้ว่าเขาคุยถึงเราหรือเปล่า ใช่ครับไว้ก่อนแล้วก็สวัสดีเขาไปจะเด็กจะผู้ใหญ่ไม่เป็นไร
** มีมาขอถ่ายรูป ขอลายเซ็นต์ไหม
ตั้งแต่มีศอ.รส.ยังไม่ได้ไปไหนเลย เพราะว่าถ้าไปเขาจะจำไม่ได้เพราะโดยปกติเวลาที่ผมไปห้างก็จะใส่กางเกงขาสั้นกางเกงฟุตบอล รองเท้าแตะ แล้วก็เสื้อยืดแบบนี้
** แล้วที่มีคนเอาไปเปรียบเทียบกับท่านนายกรัฐมนตรี และอาจารย์ปณิธาน วัฒนายากร ถึงความหล่อเหลา คิดยังไงบ้างคะ
อึ้ย...ท่านนายกฯ ท่านหล่อกว่าเยอะครับ ท่านนายกเขาเป็นคนหล่อจริง เพราะผมได้นั่งพินิจพิจารณาแล้ว ท่านเป็นคนหล่อจริง หน้าตา ผิวพรรณ ส่วนของผมมันน่าจะหล่อผาดไม่ใช่หล่อพิศ ดูแว้บ...เดียว ดูพิจารณาใกล้ๆโอ้ย..ไม่หล่อหรอก เพียงแต่ว่าอาจารย์ปณิธาน ผม ท่านนายกฯ อาจจะอายุรุ่นราวใกล้ๆเคียงกันคนก็เลยอาจจะเอามาเปรียบเทียบแต่ว่าจริงๆเราไปเปรียบเทียบกับท่านไม่ได้เพราะว่าท่านนายกฯถือเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วยงานราชการทั้งหมดแต่ก็ชื่นชมในตัวท่าน
** แล้วกับพี่เคน ที่มีคนโหวตให้มากกว่า
คงไม่หรอกครับ เพียงแต่ว่าช่วงนี้มันเป็นช่วงสถานการณ์การเมืองก็อาจจะเห็นหน้าเห็นตากันบ่อย เดี๋ยวพอสถานการณ์บ้านเมืองมันสงบเรียบร้อยลง น้องเคนเขาก็ต้องกลับมาเพราะว่าเขาเป็นพระเอกตัวจริง ผมยังชื่นชอบเขาเลย
** ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเป็นยังไง
ศอฉ., ศอ.รส. มันไม่มีวันหยุดมันจันทร์ถึงจันทร์เลย เพราะฉะนั้นก็ทั้งวันกว่าจะกลับจากที่ทำงานก็ประมาณซัก 5 ทุ่ม 5 ทุ่มนี่ บางวันก็ไปรถเกราะ บางวันก็ขับรถเอง เพราะว่ารถเกราะที่ผมใช้นี่มันเป็นรถเกราะปิกอัพที่เราเอาไปใช้งานที่ใต้ แต่ว่าก็ต้องกลับดึกๆ ไม่เป็นเวลา ปืนก็ต้องติดตัว ดูกระจกตลอดเวลาเพราะผู้บังคับบัญชาแจ้งเตือนเราทำงานอยู่ในตรงนี้มันเป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกับเรื่องความคิดเห็นทางด้านการเมืองเพราะฉะนั้นก็จะมีทั้งคนที่ชอบและคนที่ไม่ถูกอัธยาศัย เมื่อคนที่ไม่ชอบและไม่ถูกอัธยาศัยกันนี่ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ในระดับผู้บังคับบัญชาที่จะตกลงใจได้แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่ทำงานในหน้าที่ด้านนี้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพราะงั้นถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นทันก็เป็นข่าวได้ แต่ก็ปกติพกปืนอยู่แล้วตั้งแต่คมช.
** แล้วปืนมีหลายกระบอกไหม
มี 2 กระบอกครับ ปืนเล็ก .22 ช็อตบาเร็ตต้า กับ .38 แต่ถ้าเป็นอันเล็กมีกระสุนเยอะดำเนินกลยุทธ์ได้เลย (ยิ้ม)
** เคยมีคนโทรมาข่มขู่ไหม
โอ้ย..ตลอดครับ เป็นพันครั้งมั้งครับ คือโทรศัพท์ทุกวันนี้ไม่อยากเปลี่ยนเบอร์เพราะว่าเป็นเบอร์ที่ทุกคนเขารู้จักกันแล้ว เราก็พยายามใช้ความอดทนคนที่โทรมาชมก็เป็นกำลังใจซึ่งจะใช้เวลาไม่นานหนัก คนที่โทรมาด่าก็จะนานหน่อย คนที่นานที่สุดคือคนที่โทรมาเสนอความคิดเห็นซึ่งเราก็ไม่กล้าตัดสายเขาเพราะเขามีความรู้สึกที่ดีต่อเราอยากเสนอไอ้นั้นไอ้นี่ ไอ้โน้นก็จะต้องฟังไปจนจบ ก็นานพอสมควร ถ้าลองนึกดูวันนึงรับโทรศัพท์เข้าทุกนาทีมันเครียดตลอดเหมือนกันนะ ถ้าอย่างนี่เคยฟังสูงสุดครึ่งชั่วโมง เราทำหน้าที่ทางด้านนี่แล้วไปต่อล้อต่อเถียงมากกว่าไม่ค่อยงาม ก็ครับบ้าง อื้ออ้าบ้างให้รู้ว่าด่าแล้วมีผล มีอยู่ครั้งนึงที่สวนแกกลับไปบ้าง และก็ไม่ค่อยงาม และก็ล่าสุดมีคนส่งข้อความมาสั้นๆ “ไอ้สัตว์” ซึ่งผมก็โทรกลับไปตามเบอร์แล้วก็บอกว่า ขอบคุณนะครับที่ยัง Frank นะ ยังให้ผมสามารถเลือกได้ว่าผมเป็นตัวอะไรดี แต่ถ้าส่งข้อความมาว่า “ไอ้เหี้ย” นี่ ผมคงเลือกไม่ได้ (ยิ้ม)
แรกๆเคยคิดเหมือนกันว่าจะโพสต์เบอร์ลงอินเทอร์เน็ตให้บรรดามิตรรักแฟนเพลงทั้งหลายให้ร่วมกันสัมมนาท่าน แต่คิดอีกที เราเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเราไม่ควรก็ปล่อยผ่านไป เพราะเชื่อว่าวันเวลาที่ผ่านไปจะช่วยทำให้อารมณ์ของคนไทยเย็นลง ช่วยให้บาดแผลต่างๆที่มันเกิดขึ้นทั้งจริงและทั้งข้อมูลที่มันบิดพลิ้วให้มันลดลงไปเรื่อยๆ ก็คือว่าเป็นอย่างนั้น
จริงๆบุคลิกผมจะเป็นคนขี้ลก คือรับปากใครไว้จะเป็นคนทำสุดฤทธิ์ จะจดแล้วจะไม่ยอมเลิกลาเรื่องจนจะเสร็จ ถ้าเสร็จจะขีดสีเอาไว้เสร็จแล้ว(เอาสมุดตารางงานให้ดู) เพราะฉะนั้นก็ทุ่มเททำงานเต็มที่ แต่พอมาคมช.นี่ นอกเหนือจากงานปกติไอ้ตำแหน่งโฆษกนี่มันไม่ใช่ตำแหน่งมันเป็นหน้าที่ที่เขามอบหมายให้แต่ตำแหน่งของผมจริงๆคือรองผู้อำนวยการกองในสมัยก่อน และก็ย้ายมาหลายกอง จนล่าสุดมาเป็นผอ.กองปฏิบัติการจิตวิทยานี่คือตำแหน่งหลัก
และช่วงที่เป็นโฆษกกองทัพบกก็ไม่ได้หยุดว่างเว้นเพราะมันมีกีฬาสีมาอย่างต่อเนื่อง ก็ชีวิตเริ่มหมดสภาพตั้งแต่คมช.เป็นต้นมาทั้งที่จริงแล้วผมไม่ถนัดการเป็นโฆษก
** แล้วทำไมถึงถูกเลือกเป็นโฆษก
สมัยก่อนผมเป็นพิธีกรในงานของกองทัพบกเวลากองทัพบกจัดงานรื่นเริง งานเลี้ยง งานอะไรก็ตาม ตั้งแต่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระองค์ท่านเสด็จฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์ท่านเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพระองค์ท่านเสด็จฯ ที่บก.ทบ.เขาก็จะให้ผมไปเป็นพิธีกร เราก็จะนั่งนึกว่าเอ้..เราเป็นพิธีกรเราจะกราบบังคมทูลท่านเรื่องอะไรดี ควรจะพูดกับคนในงานอะไรดีที่มันไม่จาบจ้วงแต่ก็มีมุกตลก สนุกสนาน ให้มีความรู้สึกสบายๆ ไม่เกร็งมากจนเกินไป ก็จะไปทำการบ้านที่บ้าน นั่งท่องหน้ากระจก คำราชาศัพท์ต้องท่อง พอท่องได้วันรุ่งขึ้นมาก็ปิดโผ และก็เป็นฟอร์มจากบายฮาร์ทแต่ความจริงก็ท่องมาแล้ว(ยิ้ม) เขาเลยนึกว่าเก่ง เขาเลยให้มาทำหน้าที่โฆษก ซึ่งผมก็เรียนท่านพลเอกสนธิ (บุณยรัตนกลิน)ในขณะนั้นว่าผมไม่ถนัด การเป็นโฆษกกับการเป็นพิธีกรคนละเรื่องกันแต่ในฐานะที่เป็นทหารผู้บังคับบัญชาสั่งก็ทำแต่เอาดีได้หรือไม่ได้ผมทำเต็มที่อ่ะ ก็แล้วแต่ท่านตกลงใจ
วันนึงถ้าผมขอเจ้านายได้ ผมอยากยุติเรื่องการเป็นโฆษกผมมีความรู้สึกว่ามันต้องแบกรับความรู้สึกของคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยิ่งหน่วยงานยิ่งใหญ่เท่าไหร่มันก็ต้องยิ่งแบกรับ อย่างกรณีของศอ.รส., ศอฉ.ที่ผ่านมา ผมต้องแบกรับบริหารอารมณ์ของคนทั้งประเทศ คนกลุ่มหนึ่งที่เห็นด้วยกับการชุมนุมจะด่า..ธรรมดา คนที่ชื่นชอบรัฐบาลก็จะมีความเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถปฏิบัติได้นะ คนที่ชื่นชอบในรัฐบาลแต่ฮาร์ดคอร์หน่อยเพราะเขาเดือดร้อนนี่ เขาก็มีความรู้สึกเร่งเร้าอยากให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ทำไมเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงไม่เห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจะปล่อยอย่างนี้เหรอ ก็ต้องบริหารอารมณ์ของคน 3 กลุ่มทั้งๆที่บางครั้งเรารู้ว่าการปฏิบัติภารกิจของกองทัพ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารนี่ บางทีในภาพกว้างๆมันดูไม่ออกว่ามันได้เดินหน้าไปแต่ละวันหรือว่าหยุดซอยเท้าอยู่กับที่ แต่เราก็ต้องหาอะไรเป็นความหวังเพื่อชุบชีวิตให้กับคนที่คาดหวังว่ามันจะเสร็จสิ้นโดยเร็วอย่างต่อเนื่องให้เขามีความหวังอยู่ตลอด..อึ้ย...ไม่ได้หยุดนะ ยังทำต่อนะแต่วันนี้มันไม่สามารถรุกคืบหน้าได้เร็วเพราะจะมีคนตายเยอะซึ่งบางเรื่องก็อธิบายได้ บางเรื่องก็มีข้อมูลไม่เหมาะที่จะอธิบายแต่ก็ต้องมีอะไรที่ต้องเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตของคนที่เขามีความหวังอยู่ตลอด ผมมีความรู้สึกมันไม่ไหว
บันทึกการเข้า
มาดามเฟ
Administrator
Hero Member
กระทู้: 9787
โปรโมทเว็ปไซด์แนะนำติดต่อทำadsกับทางgoogleได้ผลมาก
Re: เปิดประวัติ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.และบทสัมภาษณ์
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2010, 11:31:38 AM »
--------------------------------------------------------------------------------
** ดูเหมือนจะแถลงข่าวตอบโต้อีกฝ่ายได้ดี
ในการตอบโต้ ด้วยความเป็นทหารเราต้องดึงให้ช้านิดนึง ต้องโง่ๆ หน่อย ในภาพของความเป็นข้าราชการมันต้องทำหลายๆ อย่างประกอบกัน ผมว่าเรื่องการชี้แจงม็อบสวนกลับไปเลยนี่บางทีมันอาจจะได้ความสะใจ แต่ความน่าเชื่อถือในอีกมุมนึงมันอาจจะลดลง แต่ถ้าเราได้มีโอกาสที่จะยับยั้งตรวจสอบข้อมูลกว่านี้ มันจะมีภาพของความเป็นข้าราชการว่าเราไม่ได้มุ่งประสงค์ที่จะสวนปากต่อปาก คำต่อคำ เพียงแต่ว่าชี้แจงด้วยข้อเท็จจริงๆ และก็ผมว่ามันเป็นงานทางจิตวิทยานิดนึง บนความน่าสงสารของคนทั่วไป
** ก่อนแถลงแต่ละครั้งมีการเตรียมตัวนานไหม
เวลาน้อยมากครั้ง เพราะการประชุมตอนเช้าเสร็จก็ต้องรีบชี้แจง เรื่องต่างๆเราก็จะตกลงใจกันเอง มีพูดคุยกับอาจารย์ปณิธานเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับรัฐบาลท่านว่าไป อะไรที่เกี่ยวกับการปฏิบัติของศอฉ. เรื่องการใช้กำลังก็ผมว่า ก็คือมีน้องที่ปรึกษาอยู่ 2 คน คือน้องพันตรีหญิงสิริยา เขื่อนศิริกุล กับพันตรีอิฐ ทิพย์จันทร์เป็นคนหาข้อมูลให้ เราก็จะคุยกันอยู่แค่นี้ ก็จะดูว่าอะไรที่ต้องชี้แจงโดยด่วน ก็จะจดเฉพาะหัวข้อเท่านั้นเองครับอธิบายในแบบของเรา เพราะผมคิดว่าคนที่เป็นโฆษกไม่ควรจะไปนั่งก้มหน้าอ่าน เพราะคนโดยทั่วไปจะมีความรู้สึกว่ามึงยังไม่เข้าใจแล้วจะไปทำให้คนอื่นเข้าใจได้ไง แต่ถ้าคนเข้าใจแล้วก็จะเล่าได้
** มุกปล้นเซเว่น คิดงานไหม
ไม่ได้คิด คือผมพลาดไปในวันนั้นนะ เพราะว่าปกติทุกวันมันจะเป็นการแถลงข่าวกับพี่ๆน้องๆสื่อมวลชนเสร็จแล้วมีการโต้ตอบคำถามกัน ที่นี้วันนั้นเขาทีวีพูลแล้วก็ลืมไปนั่งอธิบายไปซักพักลืมว่าขณะนี้มันพูลอยู่นะ งั้นอะไรที่มันหลุดปากโหย..กลับมานั่งนึกว่ามันเหมาะสมเปล่าวะ ตั้งแต่ไอ้เรื่องลูกระเบิด “ใส่เสร็จยิงเลยไหมครับ” แล้วก็วันรุ่งขึ้นเขาให้ไปดูตู้เซฟที่ถูกทุบว่ามีการโจรกรรมไป ไปดูร้านสะดวกซื้อเซเว่น ก็นึกในใจ โห..มันเอาไปหมดเลยวะ อาหารการกิน เอ้าฉิบหายหนังสือมันไม่เอาไปด้วยเลยเฮ้ย ก็เลยนึกว่าอ๋อ มันคงไม่รับข้อมูลข่าวสาร แต่มันคงไม่เหมาะเพราะเป็นทีวีพูลครับแต่ว่าพอฟังเสียงกลับมาว่าเขายังไม่ถึงขั้นกับตำหนิเรามากนัก แต่ถ้าเป็นอีกกลุ่มนึงที่เขาไม่เห็นด้วยก็จะเคียดแค้นนักไปใหญ่
** ทัศนคติที่มีต่อคนเสื้อแดงตั้งแต่ทำหน้าที่จากคมช.-ศอฉ.
ผมว่าในความรู้สึกของผมมันไม่ใช่เป็นอุดมการณ์ มันเป็นความรู้สึกเดือดร้อนของประชาชนในต่างจังหวัดเกี่ยวกับเรื่องความเป็นอยู่ แล้วก็มาผนวกเรื่องความศรัทธาในตัวบุคคล แต่มันไม่ใช่อุดมการณ์ประชาธิปไตย ผมคงวิพากษ์ได้เท่านี้เพราะเป็นข้าราชการ จะวิพากษ์การเมืองได้ก็ไม่เหมาะ แต่ถ้าจะให้ดูในรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นไปบ้านเมืองเราจะสงบได้เอาเรื่องทั้งหลายคุยกันแค่ในการเมืองในที่ประชุมสภา อย่าไปเอาผู้ที่เลือกตั้งท่านมาขัดแย้งด้วย ก็จะจบ
** เครียดไหมที่ต้องคุยแต่เรื่องเดิมๆ
เครียดครับเครียด อย่างศอ.รส.ผมว่ายังดีนะ อย่างน้อยมันเครียดเฉพาะเวลาที่ต้องออกไปแถลงแต่มันไม่เครียดเป็นรายครั้ง แต่ตอนคมช.มันเครียดเป็นรายครั้งเพราะว่าตอนคมช.เพิ่งใหม่กับการทำหน้าที่ก็เลยมีความรู้สึกว่าเวลาทีวี วิทยุเขาโทรมาสัมภาษณ์ไม่อยากตอบปฏิเสธเขาเพราะเป็นหน้าของเราเขาก็อยากได้ความสดของข่าว อยากได้แหล่งข่าวเป็นผู้ที่เล่าเรื่องเองแม้เขาจะมีข้อมูลข่าวสารแล้วก็ตอบรับทุกคลื่น เริ่มสัมภาษณ์ตั้งแต่ 05.45 จนถึง 08.45 น.เช้าประมาณซัก 18-19 เย็นอีกเท่าๆกัน วันนึงเกือบ 40 ครั้ง ก็ลองนั่งนึกดูถ้าเป็นเรื่องเดิมๆ 40 ครั้งครั้งละ 10-15 นาที แบบไม่มีอารมณ์โกรธเกรี้ยวมันเป็นอะไรที่ทรมานที่สุดในโลก จะไปไหนก็ไม่ได้ นั่งอยู่ในรถ มีรถเหมือนมีบ้านต้องมาจอดรถที่จอดรถตั้งแต่ตีห้าครึ่ง หนังสือทุกอย่างวางแผ่รอบตัว และก็ปรับเบาะให้นอนเพื่อให้มันวางหนังสือได้ จะถามเรื่องอะไรก็ไอ้นี่อยู่ตรงนี้จะได้อธิบายไป ครั้งที่ 7, 8, 9, 10 เป็นครั้งที่สนุกเพราะว่าผ่านครั้งที่ 1, 2, 3 มามันเริ่มจะรื่นๆ แต่ครั้งที่ 28, 29, 30 จนถึงครั้งที่ 40 มันเป็นอะไรที่ทรมานที่สุด พอมาศอ.รส.ได้บทเรียนแล้วว่าไม่เอาแล้วไม่ตอบรับการสัมภาษณ์วิทยุกับทีวีแล้วโดยขอความกรุณาเวลาที่เขาโทรมาพี่ขออนุญาต ไม่ไหวเพราะแถลงข่าวเช้าและเย็นแล้วนี่ก็จะต้องไปประชุม คณะมันมีคณะเยอะประชุมใหญ่ศอฉ.แล้วนี่ คณะเล็กอีกซึ่งมันเป็นรายละเอียดแต่ละเรื่องซึ่งเราต้องไปฟังเขาจะได้รู้ในรายละเอียดว่าเรื่องอะไรที่มันชี้แจงได้ เรื่องอะไรไม่ควรชี้แจง
** มีวิธีการจัดการความเครียดยังไง
เวลาเครียดอย่าอยู่ใกล้ใคร เพราะผมมีความรู้สึกเหมือนกับว่าผมมนุษย์ปุถุชนธรรมดา คนอาจจะดูว่าสุภาพเรียบร้อยดูนุ่มนวลแต่จริงๆมันก็มีความเครียดต้องระบายออก พอเวลาอารมณ์เสียปั๊บนี่จะพยายามอยู่ให้ไกลจากผู้คนที่สุด ขออยู่คนเดียวปิดประตูห้อง เตะโต๊ะ เตะเก้าอี้ทำอะไรกึกกักๆ ก็ว่าไป พออารมณ์มันเย็นลงปั๊บก็ค่อยไปเจอคนอื่นเขา ไม่อยากอารมณ์เสียไปลงกับคนอื่นมันไม่ดีเพราะเขาไม่รู้ว่าพื้นฐานตั้งแต่ต้นว่าเราเจออะไรมา เขามาเจอแว้บเดียวแทนที่เขาจะมีความรู้สึกดีมีจิตคิดเมตตาคิดชอบก็จะเกลียดเราไปได้ ทำให้งานการเราเสียไปด้วย เพราะฉะนั้นเวลาอารมณ์ไม่ดีจึงไม่อยากอยู่ใกล้ใครจะพยายามดึงตัวออกมาให้ห่าง ไปอยู่คนเดียวซักพัก นั่งในรถเปิดเพลงดังๆ อะไรก็ว่าไป ตะโกนเสียงดัง
** เป็นแบบนี้บ่อยไหมคะ
บ่อยครับ นี่ก็กะว่าจะไปตรวจมะเร็ง เพราะมีความรู้สึกเหมือนกับว่าพอมันเครียดแล้วนี่กลัวมันเป็นมะเร็ง เพราะหลังๆพอมันปี๊ดแล้วมันขึ้นสุดเลย ก็เลยเดี๋ยวให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจะไปตรวจมะเร็งหน่อย
** แล้วตัวตนจริงๆเป็นยังไง
จริงๆ พี่เป็นคนอารมณ์ดีนะ สนุก สนานคุยร่าเริง ก็เป็นคนตลกดี คนจี้ (ยิ้ม)
** แล้วเป็นคนโรแมนติคไหม
เราคิดว่าเราโรฯอะ ก็เขียนการ์ด แต่หลังๆก็ไม่ได้ทำแต่ฟังคนรอบข้างบอกไม่โรแมนติกเลย
** ปกติชอบไปเที่ยวที่ไหน
เดินห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ลาดพร้าว เดอะมอลล์บิ๊กซี ก็อย่างนี้ครับ เดินไปเดินมา เดินมาเดินไป กินไอ้โน้นไอ้นี้มั่ง ขนมมั่ง
** แล้วไปเดินเซ็นทรัลเวิลด์ไหม
โอ้ย...ยังไม่เคย มันหรูไปครับ(ยิ้ม) ส่วนใหญ่เวลาไปห้างไปยืนดูซักพักนึง คนขายเขาก็จะต้องทำหน้าที่ของเขา ไอ้นี่ตัวใหม่ จริงๆ ผมอยากไปดูปกติ แต่พอเวลาเขามาขายเราก็เกรงใจเขา หนูขอให้พี่ได้มีความสุขกับการชมชมไอ้นี่ซักนิดได้ไหมถ้าพี่ซื้อแล้วพี่จะบอกนะ(หัวเราะ) น้องเขาก็เดินไป หรือบางคนเขาก็ยังยืนอยู่ก็เปลี่ยนร้านไปดีกว่า
** ชอบดูหนังไหมคะ
ชอบดูครับ ชอบดู ชอบดูหนังสงคราม พอช่วงหลังๆมีน้อยลงก็เปลี่ยนไปดูหนังตลกหนังฝรั่งที่มันกุ๊กกิ๊กๆ บ้าง
** อาหารจานโปรดชอบทานอะไร
วนเวียนอยู่จนเบื่อหน่ายมาก(เสียงสูง) 1. ก็คือฟูจิ 2. คือซิสเลอร์ มีความรู้สึกว่ามันไม่อ้วนดี หรือไม่ก็ร้านนิตยาไก่ย่าง ก็จะวนเป็นคนชอบกินอะไรแบบซ้ำๆ ถ้าอาหารเย็นกลางคืนข้าวต้มหมู ข้าวต้มกุ้งเซเว่น แล้วก็ใส่พริกไทยหนัก ใส่แมกกี้ประมาณนี้
** มีการดูแลตัวเองยังไง
ทหารครับทหาร ไม่ได้มีการทาครีมคือสบู่ สีผึ้ง สีปาก เขาเรียกอะไรลิปมัน คือสมัยก่อนไม่เคยทาลิปมันจนกระทั่งตอนที่คุณย่าเอาสีผึ้งสีปากมาให้ และก็เป็นพระทำสีผึ้งสีปากมาให้บอกว่าเป็นดอกไม้ร้อยชื่อ คล้ายๆ เหมือนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่มีอาคมเขาทำกันเวลาพูดจาอะไรแล้วก็ทำให้คนมีความรู้สึกเชื่อถือเชื่อมั่นในตัวเรา พอใช้สีผึ้งสีปากติดมา ตอนหลังพอมีลิปมันอยู่บ้างก็ใช้บ้างไม่มียี่ห้ออะไรที่ถาวร คืออะไรที่มันซื้อสะดวกก็อันนั้น ส่วนครีมก็ไม่ได้ทา แต่ตอนนี้มีคนส่งครีมที่ทาตามาให้แล้ว 2 ตัวแต่ยังไม่ได้ใช้
** อะไรที่ทำให้หน้ายังดูเด็ก
ผมไม่ทานเหล้า สมัยก่อนตอนเป็นทหารใหม่ๆ พอไม่กินเหล้าไปงานที่ไหนก็จะมี อึ้ย..ทำไมมึงไม่ไรงี้ ถ้าหงุดหงิดมากถ้าแม่งต่อยเลยครับ(หัวเราะ) กูไม่เห็นมันจะเกี่ยวเลยเรื่องกินเหล้าต่อยกูเลยดีกว่า จนเดี๋ยวนี้เพื่อนถึงไม่อยากบังคับ ก็กินโค้กได้สนุกเท่ากัน บุหรี่ไม่สูบ เพราะตอนที่ไปเรียนหลักสูตรจู่โจมนายร้อยปี 4 ขึ้นปี 5 ก็สอบบุหรี่เพราะว่าในพื้นที่เวลาไปฝึกนี่พอตื่นเช้ามาไม่ได้แปรงฟันก็เลยสูบบุหรี่ดับกลิ่นปาก แล้วก็กินข้าวเสร็จ มือก็เช็ดหัวเลยเพราะว่าผมมันสั้นจนจะติดหัว พอจบจู่โจมแล้วมันสูบมันก็ไม่เวิร์ค สูบแล้วก็ไอไม่เกิดประโยชน์ก็เลยไม่สูบบุหรี่ไม่กินเหล้าครับ อาจจะทำให้หน้ามันดูเด็กหน่อย แต่ผมอาจจะดูว่าทำไมผมถึงดำ...ย้อม.. ย้อมเองด้วยดูกระจกเอา(ยิ้ม) ก็จะไปซื้อครีมปิดสีผมครับ
** สถานที่ท่องเที่ยวนอกจากห้างแล้วชอบไปไหน
ชอบไปทะเลหัวหิน เพชรบุรี อะไรอย่างงี้ แต่ช่วงหลังก็ไม่ค่อยได้ไป มีอยู่ช่วงนึงตอนคมช.ขับรถไปเอง ไปใต้ไปถึงตอนซักสายๆ ได้ ก็ไปจองอุปกรณ์ดำน้ำ พอตอนกลางคืนเห็นการระเบิดในกรุงเทพฯเขาเรียกกลับมาจะเอารถจอดไว้ขึ้นเครื่องบินกลับมามันก็ไม่ได้ก็ขับรถกลับมาหลับมาตลอดทาง แวะตามปั๊มนอนมาเรื่อยจนกระทั่งถึงเช้า และก็อีกครั้งเมื่อตอนเมษา ไปเที่ยวเกาะไหง เดินทางไปถึงแล้วก็เดินทางกลับเลยต้องเช่าเรือหางยาวข้ามทะเลกลับมาขึ้นเครื่องที่กระบี่เพราะการบินไทยมีเที่ยวสุดท้ายพอดี แต่ขาไปไปลงที่ตรัง ก็เลยเดี๋ยวนี้ไม่กล้าไปไหนอีก
** มีดาราหญิงที่ชื่นชอบไหมคะ
คุณบุ๋ม-ปนัดดา หน้าตาเขาไบรท์ดี น่ารัก ก็ชื่นชอบเขาเป็นคนเซ็กซี่ดี
** ใกล้จะฟุตบอลโลกแล้วเชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษ
ชอบอังกฤษแต่ไม่อยากเชียร์แล้วเพราะตกรอบตลอด แต่เมื่อก่อนเคยชอบทีมชาติฮอลแลนด์นะ
** แล้วชอบเล่นกีฬาอะไร
ตอนเป็นผู้กอง ผู้หมวดก็เตะบอล เตะตะกร้อแบบใครตั้งมาก็หวดเลยนะ แต่พี่ๆเขาจะบอกว่าเวลาเป็นนายพลจะให้ยกขามาตบ มาหวดลูกคงจะไม่ไหว ควรจะเล่นอย่างอื่นแทน แต่ไม่ชอบเล่นกอล์ฟนะ ตอนนี้เล่นปิงปองอยู่
** แล้วรู้สึกยังไงกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน
ธรรมดาคนเป็นพี่เป็นน้องกัน เรียนโรงเรียนนายร้อยมาด้วยกันมาเห็นพี่เห็นน้องตายก็ต้องรู้สึกแม้กระทั่งเสธ.แดง เพราะว่าอยู่หน่วยเดียวกันมาแล้วท่านเป็นคนชักชวนให้ผมมาลงม.พัน 3 ก็รู้สึกเศร้าใจเป็นธรรมดาแต่ว่าชีวิตของใครเขาก็กำหนดมาแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น และก็เชื่อมั่นว่าเขาคงทำหน้าที่ดีที่สุดของเขาตามที่เขาคิด แต่ที่น่าสงสารที่สุดชีวิตกำลังพลทหารเพราะว่าใน ร.11 เราขับรถไปขับรถมาเราก็จะเห็นเขานอนเต๊นท์ 3 เดือน ซึ่งการนอนเต๊นท์ 3 เดือนไม่ใช่อะไรที่น่าพิสมัยเลย เรากลับไปนอนบ้าน ไปนอนที่บ้านพักรับรองก็ยังมีแอร์แต่ทหารเหล่านั้นนอนกับเต๊นท์แล้วยิ่งวันไหนฝนตกเฉอะแฉะน่ารำคาญตัวที่สุดแล้วเราผ่านทุกวัน เราก็นั่งคิดอยู่ว่าวันนึงที่สลายการชุมนุมคนไหนที่มันจะต้องตายอีกซึ่งมันก็ไม่รู้ตัว ก็รู้สึกสงสารเขาเหมือนกันแต่ทุกคนก็ต้องทำตามหน้าที่ เพราะงั้นวันนี้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดจากตัวผม มันไม่ได้เกิดจากผู้บังคับบัญชา จากผบ.ทบ.จากคนใดคนหนึ่ง จากท่านนายกฯมันเกิดจาก คนทุกคนที่เขาทำงานตามหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำสั่งที่ออกมาจากท่านผอ.ศอฉ ต้องไล่มาถึงผบ.ทบ มาถึงรองผบ.ทบ. ท่านแม่ทัพ ผบ.พล ผู้การกรม ผู้พัน ผู้กอง ผู้หมวด ผู้หมู่ ทหาร ยาวมากแต่ทหารคนสุดท้ายทำได้ตามที่เราหวังไว้จริงๆ คือไม่ได้ยิงกระสุนเปรอะเลอะเทอะ แต่ยิงกระสุนลงพื้นเพื่อที่จะให้โดนขายังยั้งเขาเท่านั้นไม่ได้หมายเอาชีวิต นี่คือสิ่งที่เราชื่นชมว่าคนของเราทำหน้าที่ได้ตามที่เราปรารถนาจริงๆ จึงเป็นความสำเร็จ
** รู้สึกยังไงที่มีคนพูดถึงทหารแตงโม
สังคมมันมีอยู่แค่ทหาร ตำรวจ พลเรือน 3 กลุ่มนี้ เพราะฉะนั้นพูดยังไงมันก็หนีไม่พ้น 3 กลุ่มนี้ ทุกกลุ่มก็จะมีคนที่มีแนวความคิดทางการเมืองแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดาแต่เป็นข้าราชการที่ได้รับมอบหมายหน้าที่แล้วต้องทำใครไม่ทำมีความผิด ก็ต้องถูกดำเนินการไปตามขั้นตอน
** หลังจากสลายการชุมนุมแล้วจะมีผลกระทบต่อตนเองแค่ไหน
แน่นอนครับ มันต้องมีผลแต่ว่าคนเป็นข้าราชการทุกคนถ้ามัววิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วในชีวิตนี้ถ้าเราคิดว่าเราเป็นข้าราชการเราเกิดมาทำงานเพื่อพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพระราชินี เพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติก็ไม่ต้องกลัว และผมคิดว่าข้าราชการทุกคนก็ต้องคิดแบบนี้เช่นกัน คือถ้ากลัวก็ไม่ต้องทำอะไร และถ้าคนเป็นทหารเกิดมาไม่มีใครกลัวใคร ไปถามได้ เพราะถือว่าเราทำตามหน้าที่
** มองว่าศอฉ.จะต้องทำงานไปอีกนานแค่ไหน
ผมว่าคงต้องอีกซักระยะนึงจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่วันนี้นี่กองทัพก็เริ่มจะกลับเข้าสู่บทบาทเดิมเพียงแต่ต้องมีบางส่วนที่สร้างความอุ่นใจให้พี่น้องประชาชนอีกซักระยะนึง และก็ผมไม่อยากให้ไปดูแคลนตำรวจ เพราะว่าท่านก็ทำหน้าที่ควบคู่กับเรามา ใครจะวิพากษ์วิจารณ์ยังไงแต่ทุกองค์กรมีคนดีและคนไม่ดีปนกัน วันนึงคนดีในตำรวจเขาเห็นถึงศักดิ์ศรีของเขาที่ลดน้อยลงไป เขาก็กลับมากู้ศักดิ์ศรีของเขาผมมั่นใจในตรงนี้เพราะเห็นความตั้งใจได้จากการทำงานแต่อาจจะมีหลายอย่างที่เล่าให้กันฟังไม่ได้แต่เชื่อมั่นว่าเรายังพึ่งตำรวจได้
** ส่วนตัวมองสถานการณ์บ้านเมืองข้างหน้ายังไง
ผมว่ามันเป็นวัฏจักรของเมืองไทยนะ มีขึ้นและมีลงครับ มีความเจริญรุ่งเรืองวันนึงมันก็ต้องตก มีขึ้นอย่าไปซีเรียสอะไรกับมันจนถึงขนาดทำให้ชีวิตของเราและครอบครัวมันเสียกระบวนการไป มองให้มันเป็นธรรมชาติ เราก็ไม่ต้องไปคิดถึงคนอื่นมากเอาหน้าที่ในตัวเราให้ดีที่สุดในฐานะของอาชีพ และในฐานะของการเป็นคนไทยด้วย
** อยากฝากอะไรถึงคุณทักษิณ
ผมไม่บังอาจจะไปพูดถึงท่านเพราะว่า 1 ท่านก็เป็นรุ่นพี่เตรียมทหารแล้วก็จริงๆในตัวตนจริงๆ ผมชื่นชอบในวิธีการทำงานของท่านนะ คนเป็นทหาร ตำรวจ เราจะมีลักษณะบุคลิก ผัวะ ผะ หงาย ผึ่ง คือปึ้บๆงานเสร็จ แต่ว่าวิธีการปฏิบัติแต่ละคนแตกต่างกันไปในรายละเอียดซึ่งก็ทำให้มีคนชอบท่านมีความศรัทธาในตัวท่านและมีคนไม่ชอบท่าน ขออนุญาตไม่พูดถึงนะครับ
** อยากฝากอะไรถึงแฟนคลับ
ขอบพระคุณทุกคนที่กรุณาเป็นกำลังใจ แล้วก็ผมจะนำกำลังใจที่ท่านทั้งหลายได้มอบให้นี้ไปเล่าสู่กันฟังในหมู่คนที่ทำงานด้วยกันทั้งในตำรวจ ทหาร ที่เป็นผู้บังคับบัญชาเหนือผมขึ้นไป และที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาแต่เรียนยืนยันว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นมันได้มาจากผมคนเดียว แต่มาจากทุกคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เราในฐานะข้าราชการก็ต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป เพื่อคนไทย เพื่อประเทศไทย เพื่อพระเจ้าอยู่หัว
** สุดท้ายเป้าหมายของชีวิต
ทุกคนก็คงอยากเป็นผบ.ทบ.แต่พอเราทำงานเรามีโอกาสได้สกรีนว่าเราเหมาะกับอะไรซึ่งตอนนี้เป้าหมายหลักคงเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะการจะเป็นผบ.ทบต้องมาจากหน่วยผู้บังคับบัญชากองกำลัง ซึ่งพอหลังเรียนจบเสธ.ก็มาทำสายอำนวยการมาโดยตลอด ดังนั้นต้องเปลี่ยนเป้าอาจจะเป็นเจ้ากรม ผู้ช่วยเสนาธิการ เสนาธิการ และถ้าเกษียณก็อยากไปเที่ยวพักผ่อน และไม่คิดที่จะเล่นการเมืองเพราะไม่ชอบ อีกทั้งรู้สึกว่าอายุ 60 ความคิดความอ่านมันคงจะช้าลงแล้ว
*** จากใจแฟนคลับถึงพี่ไก่อู
คุณส้ม นักศึกษาสาวระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เจ้าของแฟนเพจ “กลุ่มคนชอบพี่ไก่อู อันเนื่องมาจากเห็นหน้าพี่ไก่อูทุก 2 ชั่วโมง” ซึ่งได้ร่วมกับเพื่อนสาวว่าที่ด๊อกเตอร์อีก 2 คนในการก่อตั้งกลุ่มแฟนคลับเสธ.มหาเสน่ห์ กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการจัดตั้งแฟนเพจหน้านี้ว่า เริ่มจากที่คนที่อยู่รอบข้างมีแนวคิดที่ตรงข้ามกับรัฐบาลแล้วส่งผลให้ต้องรับสื่อของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่เวทีราชประสงค์มาโดยตลอดซึ่งเราไม่อยากถูกครอบงำ ดังนั้นเวลาที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) มีแถลงความคืบหน้าเราจะตั้งใจฟังและดูว่าพี่ไก่อูจะออกมาแถลงอย่างไร ในขณะก็จะได้ยินเสียงการปราศรัยจากเวทีราชประสงค์ไปพร้อมๆกัน และสิ่งที่ทำให้ประทับใจพี่ไก่อูมาจากช็อตที่พี่ไก่อูสาธิต การใช้ปืนยิงระเบิด M 79 พร้อมๆกับปล่อยมุก “ใส่เสร็จแล้วยิงเลยไหมครับ” ซึ่งเป็นมุกที่น้ำแข็งยังต้องละลาย เป็นมุกที่เทพมากและทำให้รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนไม่แสดงอารมณ์ออกมาชี้แจงก็คือชี้แจง ให้ตัดสินใจกันเอาเอง ชื่นชอบในการพูดการจามีการนำเสนอที่ดี
กระนั้นก่อนที่คุณส้ม ละอ่อน(เกือบ)น้อย วัย 30 ปี จะทำแฟนเพจอย่างเป็นทางการนั้น เธอใช้เวลาที่นอกเหนือจากการทำงานวิจัยมาลองค้นหาประวัติ “ผู้ก่อการรัก” ที่เธอชื่นชอบว่าโฆษกศอฉ.ท่านนี้เป็นใครมาจากไหน และเมื่อเธอค้นพบก็ทำให้เธอแอนด์เดอะแก็งค์รู้สึกนิยมชมชอบในตัวโฆษกศอฉ.มากยิ่งขึ้น ด้วยเพราะความสมถะ ความอ่อนน้อมถ่อมตัวในโฆษก ทบ.รายนี้นั้นเอง
“ช่วงที่ทำแฟนเพจออกมาขณะนั้นการเมืองกำลังระอุเลยและโลกอินเทอร์เน็ตเป็นโลกเสมือนจริง ก็เลยอยากทำอะไรที่มันขำๆ พอวันแรกที่เปิดตัวแฟนเพจนี้จากมีสมาชิก 3 คน ก็เพิ่มเป็น 8 คน พอวันที่ 2 ก้าวกระโดดขึ้นเป็นร้อย พอวันที่ 3 ขึ้นเป็น 200 และเมื่อทำคลิปวีดิโอโดยหาเพลงที่เหมาะกับพี่ไก่อูคือเพลง “รักหลับ” ตั้งแต่นั้นมาทำให้จำนวนสมาชิกก้าวกระโดดมากจนปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 10,000 คน ขณะที่มีคนเข้าไปคลิกดูคลิปนี้กว่า 3 แสนครั้งแล้ว”
คุณส้มบอกถึงความแตกต่างระหว่างแฟนเพจหน้านี้กับหน้าอื่นๆที่ตั้งโดยแฟนคลับคนรักเสธ.ไก่อูให้ฟังว่า จากที่เคยได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมแฟนเพจที่ให้กำลังใจพี่ไก่อูหน้าอื่นก็จะพบว่า แฟนเพจ “กลุ่มคนชอบพี่ไก่อู อันเนื่องมาจากเห็นหน้าพี่ไก่อูทุก 2 ชั่วโมง” จะมีความแตกต่างจากเพจอื่นๆอย่างเห็นได้ชัดเพราะที่นี้เน้นความตลก ขบขำ ไม่เน้นเรื่องการเมือง เพราะหากใครมาโพสต์ประเด็นการเมืองทางแอดมินแฟนเพจก็จะเข้าไปโพสต์ตักเตือนทันทีพร้อมกับคำสาปแช่งให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และหากยังไม่ยอมหยุดก็จะแช่งให้เป็นหมันต่อไปซึ่งถือเป็นกฎระเบียบที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก ส่วนแฟนเพจหน้าอื่นๆซึ่งมีอีกประมาณ 2-3 แฟนเพจ จะเน้นการแจ้งความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง และข่าวความเคลื่อนไหวของพี่ไก่อูมากกว่าแนวขำขัน
คุณส้ม เล่าให้ฟังว่าก่อนที่จะมีโอกาสได้คุยกับเสธ.ไก่อู นั้นเธอใช้เวลาพอสมควรในการหาหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ชายคนนี้ และการหมายเลขโทรศัพท์ของเธอก็ไม่ธรรมดา เพราะไม่ได้ขอจากคนในแวดวงสีเขียว หรือคนใกล้ชิด หากแต่เธอกับเสาะหาได้จากเว็บไซต์ที่ต่อต้านรัฐบาลนั้นเอง
“ตอนคุยกับพี่ไก่อูครั้งแรกจะติดๆขัดๆ ตะกุกตะกักตลอดเพราะไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยเพราะก่อนที่จะโทรไปก็ไม่ได้คาดหวังแต่เมื่อคุยแล้วรู้สึกว่าไม่ผิดหวังที่ชื่นชอบผู้ชายคนนี้ ซึ่งส้มได้อธิบายถึงจุดประสงค์ที่เราโทรหาพร้อมกับขออนุญาตทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพี่เขาก่อนเพราะแม้พี่ไก่อูตอนนี้จะเป็นคนของประชาชนแต่ไม่ใช่คนของประชาชนเหมือนดาราแค่ออกกล้องบ่อยกว่าทหารคนอื่นเท่านั้นเอง ซึ่งตรงจุดนี้พี่ไก่อูเข้าใจ และยินดีร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่เราจะทำขึ้นซึ่งในเร็วๆนี้จะมีการจัดทำเสื้อแฟนคลับพี่ไก่อูเพื่อหารายได้ช่วยเหลือทหารและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุม และเมื่อวางหูจากพี่เขาปุ๊บส้มก็กรี๊ดทันที พร้อมกับบอกกับเพื่อนๆว่าพี่เขาน่ารักมากจริงๆ แม้ความจริงแล้วพี่ไก่อูจะไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อเอาเสียเลย”
คุณส้ม ยังบอกด้วยว่าหากมีโอกาสได้เจอเจ้าของศูนย์ไก่อูฉกหัวใจตัวเป็นๆ เธอจะเอามือไปจิ้มที่ตัวเสธ.คนดังทันที ว่านี่คือตัวจริงหรือเปล่า พร้อมกับจะบอกว่า “ขอบคุณที่ทำงาน และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยกันเสียสละเพื่อดูแลประชาชนทั้งประเทศ”
....และแม้กระแสศอฉ.จะซาลงไปในวันใดวันหนึ่ง คุณส้มกลับไม่ได้รู้สึกว่าแฟนเพจที่เธอและผองเพื่อนตั้งมาอันนี้จะด้อยค่าลงแต่อย่างใดเพราะเธอกลับมองว่าอย่างน้อยแฟนเพจหน้านี้ก็ได้ทำประโยชน์อะไรเพื่อประชาชน สุดท้ายจะล้มหายไปก็ไม่เสียใจหากแต่มันนำมาซึ่งความภาคภูมิใจมากกว่า....
บันทึกการเข้า
มาดามเฟ
Administrator
Hero Member
กระทู้: 9787
โปรโมทเว็ปไซด์แนะนำติดต่อทำadsกับทางgoogleได้ผลมาก
Re: เปิดประวัติ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.และบทสัมภาษณ์
« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2010, 11:13:31 PM »
--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวจากไทยรัฐออนไลน์ 9 มิถุนายน 2553
**********************************
""""คำถามเด็ดโดนใจสาว ๆ อยู่กลาง ๆ บทสัมภาษณ์""""
มีเสียงลือสารพัด ช่วยเคลียร์ให้ชัดๆได้ไหม "เสธ.ไก่อู" มีลูกมีเมียหรือยัง
(อืมม์) เคยแต่งงาน ไม่มีลูก แต่แยกกันแล้ว ขออนุญาตไม่เป็นข่าว นะครับ เพราะเรื่องมันเกิดมานานหลายปีแล้ว ไม่อยากให้กระทบคนอื่น
*********************************************
เปิดหัวใจโสดสนิท?! "เสธ.ไก่อู" ผู้พันยอดรัก
ต้านกระแสไม่อยู่จริงๆกับความฮอตและมาแรงสุดๆของ ปรากฏการณ์ เสธ.ไก่อูฟีเวอร์ ที่ส่งให้โฆษกกองทัพบก "พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด" แจ้งเกิดจากการรับหน้าที่โฆษกประจำศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. คอยประกาศชี้แจงสถานการณ์ต่างๆอันเนื่องจากเหตุการณ์ความวุ่นวายตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
นอกจาก ศอฉ.จะถูกแปรสภาพกลายเป็น "ศูนย์ไก่อูฉกหัวใจ" ในชั่วข้ามคืน ชื่อเสียงของผู้พันไก่อูยังกระหึ่มไปทั่วโลกไซเบอร์หลายเว็บไซต์ เปรียบเทียบความหล่อของนายทหารอารมณ์ดีกับหนุ่มหล่อระดับชาติ เช่น นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพระเอกชื่อดัง "เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" พร้อมตั้งฉายาให้หวานเจี๊ยบว่า ผู้ก่อการรัก และสุภาพบุรุษผู้พันไก่อู
ปรากฏการณ์ไก่อูฟีเวอร์ยังไม่หยุดเท่านี้ เพราะสาวน้อยสาวใหญ่หลากหลายวงการยังรวมกลุ่มเป็นแฟนคลับ ตั้งแฟนเพจในหน้าเฟซบุ๊กให้ผู้พันไก่อูมากมายสารพัด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนรัก "พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด" กลุ่มคนชอบพี่ไก่อู อันเนื่อง มาจากเห็นหน้าพี่ไก่อูทุก 2 ชั่วโมง และกลุ่มมั่นใจว่าคนไทยหลายคนเต็มใจ รวมเงินซื้ออายครีมให้ เสธ.ไก่อู
อย่างไรก็ดี แม้แฟนคลับจำนวนไม่น้อยจะยืนยันว่าไม่ได้ชอบ "เสธ. ไก่อู"เพราะความหล่อ ทว่า ทึ่งกับบทบาทและความดีของผู้พันยอดรัก แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว คำถามยอดฮิตที่แพร่กระจายทั่วอินเตอร์เน็ตยามนี้ก็คือ ผู้พัน เจ้าเสน่ห์แต่งงานมีลูกมีเมียหรือยัง ชอบผู้หญิงแบบไหน ทำยังไงถึงจะ พิชิตหัวใจผู้พันสุดหล่อได้ ในขณะที่บางกระแสลือให้หึ่งว่า ผู้พัน ขวัญใจมหาชนแกล้งแอ๊บแมน เพราะแท้จริงชอบไม้ป่าเดียวกัน!!
บันทึกการเข้า
มาดามเฟ
Administrator
Hero Member
กระทู้: 9787
โปรโมทเว็ปไซด์แนะนำติดต่อทำadsกับทางgoogleได้ผลมาก
Re: เปิดประวัติ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.และบทสัมภาษณ์
« ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2010, 11:15:42 PM »
--------------------------------------------------------------------------------
มีเสียงลือสารพัด ช่วยเคลียร์ให้ชัดๆได้ไหม "เสธ.ไก่อู" มีลูกมีเมียหรือยัง
(อืมม์) เคยแต่งงาน ไม่มีลูก แต่แยกกันแล้ว ขออนุญาตไม่เป็นข่าว นะครับ เพราะเรื่องมันเกิดมานานหลายปีแล้ว ไม่อยากให้กระทบคนอื่น
แล้วข่าวเมาท์ว่าเป็นเกย์ล่ะคะ
ไม่ได้เป็นครับ
สาวๆคงดีใจที่รู้ว่าผู้พันโสดสนิท?!
มันก็ไม่โสดหรอก...อายุขนาดนี้แล้ว
ถ้างั้นเจ้าชู้อย่างที่ร่ำลือหรือเปล่า
(ยิ้มเจ้าเล่ห์) เป็นผู้ชาย...ก็มีบ้างนิดหน่อย แต่สัญญาไว้ว่าจะไม่เล่าเรื่องในบ้านให้ใครฟัง
รู้สึกยังไงบ้างกับกระแสไก่อูฟีเวอร์
******************************
บันทึกการเข้า
มาดามเฟ
Administrator
Hero Member
กระทู้: 9787
โปรโมทเว็ปไซด์แนะนำติดต่อทำadsกับทางgoogleได้ผลมาก
Re: เปิดประวัติ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.และบทสัมภาษณ์
« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2010, 11:16:59 PM »
--------------------------------------------------------------------------------
ก็เป็นความปลื้มปีติ เป็นกำลังใจให้ทหารทุกคนครับ เพราะความสำเร็จที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากผู้บังคับ บัญชา หรือไก่อูเพียงลำพัง แต่เกิดจากทุกคนที่อยู่ในตำแหน่ง และทำหน้าที่ของตนเอง จนทำให้เกิดผลตอบรับในทางบวก มากกว่าลบ คือมีคนรักดีกว่าคนเกลียดครับ
ฮอตขนาดนี้ คิดว่าตัวเองหล่อกว่านายกฯอภิสิทธิ์ และเคน-ธีรเดช ไหมคะ
หล่อเหรอ...ดูไม่ออกว่าหล่อเลย!! โห...ตอนเด็กๆน่าเกลียดมาก ต้องเอารูปมาให้ดู ผมถ่ายกับพี่น้องสามคน มีไก่โรส-ไก่อู-ไก่งวง ผมเหมือนเด็กที่พ่อแม่เก็บมาเลี้ยง เพราะดำอยู่คนเดียวในบ้าน ที่เหลือเขาขาวกันหมด ไม่กล้าเทียบกับท่านนายกฯหรอกครับ ท่านเป็นคนหล่อจริง หล่อพิศ ยิ่งดูยิ่งหล่อ นั่งประชุมอยู่ด้วยกัน ผมยังแอบมองท่านเลย ท่านเป็นคนหล่อจริงๆ คือจมูก ผิวพรรณ หน้าตา ทรงผม ลักษณะได้หมด แต่ไอ้ไก่อูมันหล่อฉาบ คือดูดีเผินๆ แต่พอลงรายละเอียดก็ไม่เท่าไหร่ ส่วนน้องเคนก็เป็นพระเอกในดวงใจ วันนี้ไอ้ไก่อูอาจดูแรง เรตติ้งดีกว่า แต่จริงๆมันไม่ใช่หรอก มันเป็นช่วงการเมืองที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนทั้งบ้านทั้งเมือง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2010, 12:04:40 AM โดย มาดามเฟ » บันทึกการเข้า
มาดามเฟ
Administrator
Hero Member
กระทู้: 9787
โปรโมทเว็ปไซด์แนะนำติดต่อทำadsกับทางgoogleได้ผลมาก
Re: เปิดประวัติ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.และบทสัมภาษณ์
« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2010, 11:21:19 PM »
--------------------------------------------------------------------------------
ชีวิตช่วงนี้เปลี่ยนไปเยอะไหมคะ
มีเคล็ดลับอะไรดูแลตัวเองให้หน้าเด็ก?!
คำศัพท์ใหม่ๆ เช่น กระชับวงล้อม และขอคืนพื้นที่ ใครเป็นคน บัญญัติขึ้น
******************************
อิอิ โสดแล้ว แต่ ไม่สนิท ค่ะ
ทีมข่าวหน้าสตรี
ก็ช่วยๆกันคิด แต่คำว่ากระชับวงล้อมเกิดขึ้นโดยบังเอิญ คือผมพูดกับน้องฝ่ายเสธ.ว่าจะไม่อะไรกันเลยเหรอ ปล่อยไว้อย่างนี้ก็อยู่กันเหมือนเดิมตลอด อย่างน้อยมันน่าจะกระชับวงล้อมนะ น่าจะตะล่อมให้ เข้ามาอยู่ในพื้นที่เป็นสัดส่วน ไม่งั้นมันกระจายเลอะเทอะไปหมด ก็เป็นคำที่มีความหมายตรงตามการปฏิบัติ เพราะเราไม่ได้ต้องการสลายการชุมนุม
ผลงานโดดเด่นขนาดนี้ สนใจลงเล่นการเมืองไหมคะ
ไม่เคยคิด!! ไม่ชอบเรื่องการเมือง วันข้างหน้าเมื่อจบงานแล้ว เกษียณ อายุแล้ว ก็จบแค่นี้...ไม่เอาแล้ว
อายุเพิ่ง 47 เอง วางแผนใช้ชีวิตหลังเกษียณ แล้วเหรอ
(หัวเราะ) หลังเกษียณคงไม่ทำอะไรแล้ว ว่า จะพักผ่อน เที่ยวที่โน่นที่นี่บ้าง ทำสิ่งที่อยากทำ แต่ ที่ฝันไว้มากที่สุดคืออยากมีบ้านหลังเล็กๆเป็นของ ตัวเอง ก็พยายามเก็บเงินอยู่ เคยลองทำธุรกิจรถแท็กซี่ แต่ก็เจ๊ง จนเป็นหนี้เป็นสิน ต้องไปทำงานที่สนามม้ากับเสธ.ไอซ์อยู่พักหนึ่ง เดินจดบัญชี เขียนเช็ค เก็บเช็ค ไม่ได้ทุจริตใคร จนกระทั่งสามารถเคลียร์หนี้สินได้หมด ทำให้เข็ดแล้ว แม่เคยเตือนว่าอย่าทำเลย เพราะเราเป็นประเภทไม่เคี่ยว ใครติดตังค์ไม่มีจ่ายก็ไม่ว่า แต่พอติดนานๆเข้า มันไม่มีช่วงกลางๆ ประนีประนอมไม่เป็น จะเลยไปถึงจุดปรี๊ดเลย ไม่จ่ายใช่ไหม ก็ต้องไปลุย กับมัน แม่เลยบอกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เดี๋ยวติดคุก เลิกซะดีกว่า!!
ก็ปกติทุกอย่าง...ยังอยู่แฟลตทหาร ซึ่งผมชอบเรียกว่าคอนโด เพราะดูดีกว่า (หัวเราะ) ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองเหมือนเดิม ยังเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่มีใช้มีกิน สามารถผ่อนรถได้ มีเงินพอดูแลแม่ พอจับจ่ายใช้สอย ถ้ามีเหลือก็ต้องเก็บบ้าง เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง และสิ่งที่ทำอยู่ เสมอไม่เคยเปลี่ยนคือ การตักบาตรวันเสาร์อาทิตย์ หรือวันไหนที่สะดวกตัว จะแวะไปแถวตลาดประชานิเวศน์ตั้งแต่เช้าตรู่ ใส่บาตร เสร็จเรียบร้อย ก็จะมานั่งกรวดน้ำ และแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลตามลำดับ ถ้าออกไปข้างนอกก็มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปบ้าง ยิ้มจนเหงือกแห้ง แต่ก็เป็นความสุขดี มีคนส่งดอกไม้ ส่งของกิน ส่งอายครีมมาให้ (หัวเราะ) แต่ว่าเราก็ต้องแบ่งเวลาด้วย เรื่องการงานต้องไม่เสีย เพราะหน้าที่หลัก คือผู้อำนวยการกองปฏิบัติการจิตวิทยา ของกรมกิจการพลเรือนทหารบก ส่วนการเป็นโฆษก ศอฉ.เป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
แฟนคลับฝากถามว่า ผู้พันชอบทานอะไร
ชอบกินอะไรซ้ำๆเดิมๆ เช่น ตอนเย็นกินข้าวต้มหมู ในเซเว่น ที่เอามาเวฟ ใส่แม็กกี้ ใส่พริกไทย ก็ยังทาน อยู่เกือบทุกวัน มื้อกลางวันก็ทานง่ายๆที่กองทัพบกจัดไว้เป็นสวัสดิการ คนละ 10 บาท ทานได้หมดทั้งข้าวผัดกะเพรา ข้าวราดแกง แต่ถ้าวันหยุดก็ทานตามห้างฯ พวกฟูจิ ซิสเล่อร์ และเอ็มเค แต่ที่คนลือว่าชอบไข่ปลาคาเวียร์ ไม่รู้เอามาจากไหน เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยทาน ถามว่าชอบ อะไรพิเศษ ก็ชอบกินอาหารทะเล ผัดไทยไม่ใส่เส้น และชอบบะหมี่ที่ปรุงรสจัดๆ แต่ไม่ชอบปลาร้า
ไม่ได้มีอะไรเลย คงเพราะไม่แตะเหล้าบุหรี่ แต่ ถ้าเพื่อนๆไปเที่ยวกัน เราดื่ม เป๊ปซี่ดื่มโค้กก็สนุกได้ พวกครีมบำรุงก็ไม่เคยใช้ อย่างมากก็ใช้เจลล้างหน้า เรื่องออก กำลังกายก็ไม่เคย เข้าฟิตเนส จะเล่นทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ชอบที่สุดคือเตะตะกร้อ
--------------------------------------------------------------------------------
3.jpg (47.21 KB, 420x578 - ดู 1935 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 16, 2010, 10:21:45 PM โดย มาดามเฟ » บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
ตกใจหมดเลยอ่ะ เอาไปขึ้นได้ไงล่ะ รู้ไงว่าเค้าจะไป search หาว่าเป็นหนังสือหรือเปล่า รู้ทันแบบนี้เค้าจะนำหน้าคนอื่นได้ยังไงละคะ ตัวเอง???
ตอบลบhttp://www.nightsiam.com/forum/index.php?topic=2080.0
ตอบลบเวลาฟังท่านโฆษกฯ แถลงข่าวฯ อืม..ม..ม.. นิ่ม ๆ นิ่ง ๆ ฟังแล้วค่อย ๆ คิดตาม..ไม่น่าตกใจ
http://www.youtube.com/watch?v=qD-dR-07RAQ&feature=player_embedded#!
ตอบลบกรี๊ดส์..เพลงของพี่โน้ส อุดม แต้ฯ..เดี่ยว 3 ละป่าว MV ตอนจบ ถ่ายกะคุณนาย..ทอง จำชื่อคุณนายไม่ได้ละ
อ๋อ เป็นปะหน้า FACE BOOK เฉย ๆ น่ะ..แต่ถ้าทำเป็นหนังสือ ท่านน่าจะเขียน น่าจะดีนะคะ...
ตอบลบนึกออกแล้ว..คุณนายทองสุข
ตอบลบ