วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

CEO VISION ศุกร์ 16 เมย.53

CEO VISION ศุกร์ 16 เมย.53
บ้านญาติเราใช่หรือเปล่าคะ..ลาว..แม่นเลย (หรือมั่วเลย)

คุณกฤษณ์ เคยได้ยินคุณวิกรมพูดว่า เมืองไทยมีต้นทำธุรกิจสูง หมายถึงการต้องจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชาหรือจ่ายใต้โต๊ะใช่หรือไม่ ในอดีตที่คุณวิกรมเคยทำธุรกิจ เคยจ่ายใต้โต๊ะมั้ย

ตอบ ประเทศที่มีคอรัปชั่นสุง ๆ คือประเทศที่มีต้นทุนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ไม่สร้างประโยชน์ส่วนรวมสูง เช่น ประเทศไทยเรา เราโตช้าและล้าหลังเพราะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการต้องมีน้ำร้อนน้ำชาเสมอ มิฉะนั้นจะทำให้งานเราช้า หรือไม่ได้งาน ผมนิยมชมชอบสยามซิเมนต์ว่าเป็นบริษัทที่เขาไม่ยอมจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชาใด ๆ เลยนะ ที่เขาทำได้อย่างนี้ก็เพราะว่าสยามซิเมนต์เขาใหญ่ แล้วก็มีนโยบายไม่จ่าย เรียกว่าไม่มีใต้โต๊ะอะไรเลย ทุกอย่างต้องโปร่งใส หากข้าราชการส่วนไหนไม่ให้ความสะดวกหรือหาเรื่อง สยามซิเมนต์จะร้องเรียนเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเสียงเขาดัง อมตะก็เริ่มต้นมาจากบริษัทเล็ก ๆ ในอดีต แน่นอน สิ่งที่ว่าล้วนเคยมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์เหล่านี้มาแล้วทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น หากจะหาวิธีแก้ปัญหาก็จะต้องช่วยกันต่อต้านการคอร์รัปชั่นกันนะครับ

จากคุณสมบุญ โสพิกุล ถ้ามีคนมาบอกคุณวิกรมว่ามีการยักยอกเงินบริจาคเพื่อการกุศลทั้งในและต่างประเทศ คุณวิกรมจะเชื่อหรือไม่เพราะอะไร และมีวิธีป้องกันมิให้มีการคอร์รัปชั่นเงินผู้บริจาคได้อย่างไร

ตอบ ก็ผมมักจะบ่นมาเกือบ 10 ปีแล้ว ถ้าในประเทศไทยมีถ้วยน้กบ่น คุณวิชัยคิดว่าจะเป็นผมมั้ย (มีสิทธิ์เข้าชิงฮะ)ก็ด้วยความเป็นนักบ่น และจะบ่นหนักขึ้น
องค์กรที่มีการยักยอกเงินมากทีสุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยก็คือวัด เพราะว่ามีผู้บริจาค ผู้บริจาคแต่ไม่ได้รับใบเสร็จรับเงิน และมีผู้ที่อยู่ทั้งบนดินและใต้ดินมาเกี่ยวข้องมากมาย มีทั้งคนที่ใส่ยูนิฟอร์มทั้งพระและกรรมการของวัด พวกนี้ล้วนมีผลประโยชน์ให้ส่วนตัวมากมาย เพราะว่าในวัดไม่มีระบบตรวจสอบ ตรวจรับที่ดีเลย เพราะว่าในวัดก็ยังระบบแบบโบราณ ฉะนั้นเงินบริจาคไม่รู้ว่าใครเป็นคนให้ คนไหนให้เท่าไหร่ จำนวนเท่าไหร่ เกิดเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจผมเสมอว่าเงินที่ฝากอยู่ในบัญชีธนาคารต่าง ๆที่เป็นชื่อของกรรมการ, พระ, คนที่เกี่ยวข้อง ทั้งประเทศมีจำนวนหลายหมื่นล้าน คำถามคือเงินเหล่านั้นมาจากไหน พวกที่ผมกำลังเอ่ยทำไมมีเงินได้เยอะขนาดนี้ และเงินพวกนี้ไปจ่ายให้ใครมั่ง ฉะนั้นก็จะเป็นเรื่องที่เราควรจะมาสะสางกันทำให้มันถูกระบบ ทำให้มันถูกต้องเพราะว่า คนทำบุญในวัดล้วนแต่มีจิตใจที่อยากจะไปทำในสิ่งที่ดี แต่ปรากฏว่าสิ่งที่เขาทำไปไปเข้ากระเป๋าบุคคลเหล่านี้กัน ฉะนั้นคนที่จะทำบุญต้องเลือกวัด เลือกพระที่ดี ๆ เท่านั้น

คุณรัตน์ คุณวิกรมเคยคิดไปอยู่ต่างประเทศหรือไม่ เพราะอะไร ดิฉันอยากไปตั้งรกรากที่ต่างประเทศ ควรจะต้องเริ่มต้นวางแผนชีวิตอย่างไร

ตอบ ตอนผมจบใหม่ ๆ ตอนนั้นไม่อยากกลับเมืองไทย รายได้ในต่างประเทศดีกว่า อากาสเย็นสบายกว่า อยู่สบายกว่า (หัวเราะ ๆ ๆ) แต่สุดท้ายผมก็กลับมาอยู่ที่เมืองไทย เพราะว่าโอกาสในประเทศไทย สำหรับตัวผมมันมีมากกว่าการที่ผมจะไปทำมาหากินอยู่ที่ต่างประเทศ วันนี้จริง ๆ แล้ว สิ่งที่ผมพูดนั่นก็คือตัวผม ว่าเราอาจจะเหมะสมกับการที่อยู่เมืองไทย เพราะว่าผมเป็นนักลงทุน เป็นนักพัฒนา เป็นเถ้าแก่ วันนี้โลกเราเป็นประเภทโลกาภิวัตน์ ที่ไหนปลอดภัย มีโอกาสดี มีความอุดมสมบูรณ์สูง เราก็ควรศึกษาไปดู คนที่เก่งและฉลาดควรต้องมองโลกให้กว้างอย่าผูกติดกับอดีตจนเกินไป เช่น คนอเมริกา อยู่แต่ในอเมริกานั่นแหละ คนญี่ปุ่นก็อยู่แต่ญี่ปุ่น คิดว่าโลกเราวันนี้ เนื่องจากเป็นระบบโลกาภิวัตน์ โลกเป็นของทุก ๆ คน ที่ไหนดีว่า มีโอกาส ความสำเร็จสูงกว่า เราก็ควรไปดู
แต่เราจะต้องรู้จริง มีข้อมูลที่ถูกต้อง จึงค่อยตัดสินใจไปอยู่ไปทำงานที่นั่น ที่สำคัญตรงที่เราจะไปทำงานต้องเป็นที่ที่ไม่มีอันตรายที่ที่ต้องไม่ไปเสี่ยงชีวิต มิฉะนั้น อย่างเช่นคนไทยที่ไปทำงานที่ตะวันออกกลาง คนไทยที่ไปทำงานในที่ที่เขารบกัน อันนี้เสี่ยง ผมว่าต้องระวัง อย่าผลีผลามไป มันอันตราย อย่างกับตอนนี้ เช่น อิรัก ปากีสถานหลีกเลี่ยงที่จะไป (ดูให้ดีนะครับจะไปแต่ละที่)

คุณดวงกานดา ธาดา ถ้าคุณวิกรมจะช่วยคนจนในสังคมไทยให้เลิกจนจะใช้วิธีใด ทุกวันนี้ มูลนิธิอมตะมีโครงการช่วยคนจนรอบนิคมอุตสาหกรรมรอบพื้นที่อื่น ๆ หรือไม่เพราะอะไร

ตอบ การจะทำให้ประชาชนในประเทศนั้น ๆ ไม่ยากจน ผมว่าต้องเริ่มที่นโยบายของประเทศนั้น ๆ ก่อน ว่าเขามีวิสัยทัศน์มากน้อยขนาดไหน หากย้อนไปดูอดีตของประเทศที่เกิดใหม่ก็ถือว่าเป็นประเทศจน ในช่วง 100-200 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่ามีประเทศหนึ่งก็คือประเทศอเมริกา ถือเป็นประเทศเกิดใหม่ เริ่มทุกอย่างจาก ก.ไก่หมดเลยนะ แต่ปรากฏว่าเขามีนโนบายที่เปิดประเทศของเขาอย่างเต็มที่เลย ให้คนทั่วโลกทื่มีเงินมีทองมีความรู้เข้าไปอเมริกา อย่างมหาศาลเลย เรียกว่าเปิดประเทศคือหนึ่งในนโยบาย จนเขาเจริญรุ่งเรืองแบบก้าวกระโดดเรื่อยมา เพราะนโยบายให้คนเก่ง คนมีเงินเข้ามาลงทุน เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ และจีน ล้วนไปก๊อปนโยบายของอเมริกาด้วยกันทั้งสิ้น โดยใช้หลักการเดี่ยวกันนั่นแหละ ใครมีเงินเข้ามา ๆ ๆ ทำให้ประเทศที่ผมมาทั้งหมดเมื่อตะกี้ ต่างประสบความสำเร็จในเรื่องเศรษฐกิจตั้งมากมาย ส่งผลให้คนจนในประเทศของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว วันนี้เราไปดูเวียตนาม
เมื่อวานนี้เราเพิ่งคุยมาใช่ไหม (ฮะ)เวียตนามวันนี้กำลังเปลี่ยนไปเพราะนโยบายให้คนมีเงิน มีความรู้ มีสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนก็แล้วมีสิทธิ์เข้ามาลงทุนในเวียตนามเท่ากับคนเวียตนาม ฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่าการแก้ปัญหาคนยากจนมันอยู่ที่เรื่องการสร้างนโยบายและนโยบายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมาในเวียตนามก็เป็นนโยบายที่ประเทศต่าง ๆ เขาได้ก๊อปมาจากอเมริกา ซึ่งก็ไม่ได้เรียกว่าเป็นของใหม่ แล้วเขาก็ประสบความสำเร็จกันถ้วนหน้า แต่ประเทศไทยยังก๊อปไม่ค่อยเป็น เพราะว่าเรามีคนรวยมีคนมีบารมีและคนมีอำนาจตั้งเยอะ กำลังห่วงว่า อ๊ยถ้าอั๊วเปิดประเทศมาก ๆ โอ๊ อย่างนั้นก็มีคนมารวยแข่งกับอั๊วสิ มีคนมาแย่ง มีคนมาแข่งขันในธุรกิจ เศรษฐกิจที่อั๊วทำอยู่ หรือนาน ๆ ไป ไอ้พวกนี้เข้าสุ่วงการเมือง ฉะนั้นในประเทศไทยของเรา เราเป็นคนหวงก้าง แล้วเป็นคนซึ่งเรากีดกันไม่ให้คนรวย คนเก่ง คนดีเข้ามาพัฒนาประเทศเราเช่นอย่างที่ในอเมริกา ก็ถือว่านี่คือสิ่งที่รัฐบาลและประเทศไทยหรือ คนไทยทุกคนต้องควรเข้าใจ และคิดจะมาปรับกัน ส่วนเรื่องของมูลนิธิอมตะมีนโยบายช่วยเหลือคนจนรอบนิคมฯ หรือเปล่า ที่จริงมูลนิธิอมตะเรามุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม ความรู้ และศิลปวัฒนธรรม ยังไม่มีโครงการที่จะไปช่วยเหลือคนจนรอบ ๆ นิคมฯ หรือคนจนที่ไหนเลยเพราะว่าเราเงินไม่เยอะ ไม่ได้รับงบจากรัฐบาล แต่บริษัทอมตะได้มีการช่วยให้การพัฒนาท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ถนน โอ๊ย (ทำไมต้องโอ้ย)สารพัดอย่างเลย ที่บริษัท(เครือ)อมตะ ทำมานานแล้วตั้งกว่า 10 ปี เยอะแล้ว เพราะฉะนั้น
คนอยู่รอบนิคมฯ ก็ยังหาปูหาปลาได้ตามปกตินะครับ

คุณนพวรรณ ดิฉันดูข่าวนักเรียนที่จะเข้าเรียนต่อชั้น ม.1 และ ม.4 ที่สอบไม่ติดแล้วต้องจับสลาก บางคนพกเครื่องรางของขลังเพื่อหวังจะจับสลากได้ คุณวิกรมมองปรากฏการณ์นี้อย่างไร รบกวนช่วยชี้แนะทางออกให้กับปัญหานี้ให้กับกระทรวงศึกษาด้วยค่ะ

ตอบ ตอนผมเป็นเด็ก ๆ ผมก็เคยทำอย่างนี้เหมือนกัน (แต่หนูไม่เคยทำค่ะ)ตอนนั้นผมยังจำได้ ผมพกพระ (เครื่อง)ไปเต็มคอ มหาอุต ขุนแผนมั่ง สารพัดอย่างเลย (เอ่อ พระขุนแผนนี่พกไว้ให้สาวหลงไม่ใช่หรือคะ ไม่เกี่ยวกับให้สอบติดซะหน่อย)แต่พอมีความรู้ ความเข้าใจ ในสิ่งที่เหตุมีผลแล้ว ผมก็เลิกพกเครื่องรางของขลังทั้งหมด การที่เด็กงมงายก็เพราะสิ่งแวดล้อมที่เด็ก ๆ เห็นจากผู้ใหญ่ นำให้เด็กเป็นอย่างนั้น เด็กก็เลยเลียนแบบสังคมเป็นเช่นนี้เพราะเรายังไม่เจริญ เรายังล้าหลัง เรายังไม่มีเหตุผล ยังโบราณ การแก้สังคมจะต้องเริ่มที่สื่อ หากยังปล่อยให้ทีวี นสพ วิทยุและสารพัดอย่าง ยังใช้คำว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เครื่องลางของขลัง ศิริมงคล มอมเมาไปเรื่อย ๆ ที่เราเคยทำมากันทั้งประเทศ ผมว่ามันยากที่จะแก้ไข เพราะกรมประชาสัมพันธ์ยังชอบใช้เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ผมไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าท่านตอนแสดงธรรมจะสอนเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ปรากฏว่าในปัจจุบันในวัดเราและพระต่าง ๆ จำนวนมากมักจะอ้างเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเรื่องชวนเชื่อ เพื่อให้เกิดการทำบุญ เพราะนั่นคือเรื่องผลประโยชน์จึงเกิดมาเป็นพระเครื่อง เครื่องรางของขลังนานาชนิด

ผมเคยคุยกับหลายรายการมาแล้ว ในรายการเราก็คุยต่ออีก เราก็เชิญคนมีเครื่องรางของขลัง ให้รางวัล 1 ล้านบาท เอามาให้ผมทดลองหน่อย ว่าไอ้สิ่งที่ผมมีทางวิทยาศาสตร์ (ลูกปืนหรือคะ)ผมจะขอลองสักเม็ดหนึ่ง สักครั้งหนึ่งว่าคนที่มีเครื่องลางของขลังติดตัว หนังจะเหนียวจริงมั้ย ถ้าเป็นจริง ถ้าเหนียวจริง ผมจะยอมรับว่าโลกของเรามีของขลัง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมคิดว่าองค์การนาซา น่าจะล้าหลังเมืองไทย เพราะเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้ ฉะนั้น ถ้าองค์การนาซา เขาได้นับถือ เขาไม่ได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วพวกเรายังยึดถือตรงนี้กัน ผมว่าพวกเราไม่ฉลาดนะคุณวิชัย (นั่นซิครับ) ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของความงมงาย เป็นเรื่องของการที่คนหลาย ๆ คนชอบหลอกตัวเอง คิดว่าตัวเองชาติที่แล้วเป็นไอ้นั่นชาติที่แล้วมีบุญบารมีอย่างนั้น อย่างนี้ สร้างกันเองขึ้นมา ผมไม่ค่อยจะให้ความสำคัญผมคิดว่าเชื่อ ทำตนแบบนี้ เป็นคนที่งมงาย แล้วก็ทำให้ตัวเอง ไม่ถูกต้อง ทำให้ชีวิตเสี่ยงทำอะไรอย่างไม่มีเหตุผล ทำให้ความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือโอกาสเสี่ยงในอนาคตมีโอกาสสุงนั่นเอง

แต่ก็ยังเชิญชวนผู้มีของดีของขลัง ผมเตรียมเงินไว้ให้ 1 ล้านบาท อย่าถอดใจตอนท้ายนะครับ ผมยิงไม่ถึงตาย แค่ทะลุเอว (แล้วจะส่ง รพ.ให้) ถ้าคิดว่าเหนียวและมั่นใจ เชิญมาหน่อยครับ ถ้าเป็นอย่างนี้จริง เหนียว ยิงไม่เข้าจริง ๆ ผมจะเอาไปเปิดตัวที่อเมริกา ให้ดังทั่วโลกไปเลย

ขาดปัญหาเรื่องความรัก ผม (วิชัย) ยังคอยอยู่ (จะคอยทำไมกันคะ หาเรื่อง (จากชีวิตจริง)มาถามเองบ้างสิคะคุณวิชัย)คุณตาวิกรมจะโฆษณาหนังสือ My Ladies ก็ไม่บอก "กินอยู่แบบวิกรม" สิ้นปีนี้ออกครับ

คุณภมร ปรีชาการสกุล คุณวิกรมให้ความสำคัญกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมากน้อยแค่ไหน ทำไมจึงมีข่าวความขัดแย้งของคนในสภาอุตฯ เรื่องเกี่ยวกับกับการซื้อเสียง เพื่อชิงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมครับ

ตอบ ผมเคยเป็นกรรมการบริหารสภาอุตฯ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เข้าใจว่าเมื่อถึงช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ก็จะต้องมีการแข่งขันกัน คนที่จะเป็นประธานได้ต้องมีภูมิหลัง มีแบ็คที่ค่อนข้างจะใหญ่หน่อยที่จะให้การสนับสนุน ฉะนั้น แต่ะละคนก็จะมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใหญ่ ๆ เสมอ บางครั้งก็อาจจะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องได้เหมือนกัน ตำแหน่งประธานสภาอุตฯ เป็นตำแหน่งที่ใหญ่ เพราะเป็นตัวแทนของเอกชนที่ใหญี่ที่สุด มีบทบาทมากที่สุดในเรื่องของการกำหนดนโยบายในเรื่องของการพัฒนาประเทศ เพราะอุตสาหกรรมทั้งประเทศเรามีสัดส่วนมากกว่า 50% ของจีดีพีเรา มีคนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเป็นจำนวน 10 ล้าน ฉะนั้นจึงมีความสำคัญในตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรม ที่มีคนอยากจะเป็นก็เลยต้องมีการแข่งขัน ไม่งั้นก็น่าเกลียด ถ้าไม่มีการแข่งขันกัน จะไปเหมือนเกาหลีเหนือได้อย่างไร ที่มอบตำแหน่งให้กับลูกชาย

ติดตามกันต่อว่าใครจะได้เป็นประธานฯ

คุณถาวร (ไม่ได้ใส่นามสกุลเลย)การแก้ปัญหาความขัดแย้งแบ่งกลุ่ม แบ่งสี แย่งชิงอำนาจเพื่อตนเองและพรรคพวก ของบรรดานักการเมืองและพวกบ่อนทำลายประเทศ ควรทำอย่างไรไม่ให้เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้เพื่ออนาคตที่ดีของการเมืองไทยครับ

ตอบ ในสังคมไทยวันนี้ ความขัดแย้งของกลุ่มคนต่าง ๆ ไม่ว่าเป็นการเมือง ล้วนมาจากเรื่องของผลประโยชน์ หากคนเหล่านี้เข้าใจสังคมโลก ว่าแต่ละประเทศกำลังแข่งขันกัน เราควรจะทำอะไรให้ประเทศไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันได้ โดยการทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งจากการไม่เห็นแก่ตัวนั่นแหละ
ทำเพื่อตัวเองและพร้อมไปกับการทำเพื่อสังคมด้วย เราอย่าไปเห็นแก่ตัว เราทำอะไรก็ทำเพื่อตัวเองนี่แหละทำพร้อมไปกับทำเพื่อสังคมด้วย ผมเชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เป็นอย่างนี้นะคุณวิชัยทุกวันนี้นักการเมืองที่ผมเคยเห็นและเคยรู้จักล้วนเป็นคนเก่งและเป็นคนขยัน แต่มีหลายคน ไม่เข้าใจความหมายของประเทศและโลกใบนี้และโลกที่กำลังแข่งขันกัน จึงทำให้หลายคนเอาแต่ได้ เอาแต่ผลประโยชน์ให้กับตัวเอง ถือเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย ประเทศไทยของเรามีพร้อมทุกอย่างด้วยทรัพยากรธรรมชาติเต็มไปหมด แต่ผู้นำสังคมเราคิดสั้นด้วยเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเหนือผลประโยชน์ของประเทศ เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย
ถ้าหากเราเข้าใจตรงนี้ เราก็จะไม่เป็นเช่นทุกวันนี้นั่นเอง

คุณผู้ปกครอง (นามแฝง) ถ้าเราจะเตรียมเด็กไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่น เราต้องเริ่มต้นที่อะไร และพัฒนาเรื่องใดเป็นพิเศษ

ตอบ ผมยังมีความเชื่อ เรื่องการเรียนหนัก ฝึกเข้มให้กับเด็ก ๆ จนเขาเติบใหญ่ จนจบมหาวิทยาลัย สิ่งที่ผมเห็นสิ่งที่ผมเป็น จากสิ่งแวดล้อมของผมตอนอยู่ไต้หวัน เด็ก ๆที่นั่นเหมือนทหาร คือเวลาทั้งหมดของชีวิตในวัยเรียนคือเรียนหนัก เด็ก ๆ ให้เขาเรียนหนัก แบบพอดี ๆ จะไม่ป่วย ไม่เคยเด็กที่คนไหนเรียนหนักแล้วจะตาย (ทันทีหรือปล่าคะ)หรือพิการ ไม่มีหงะ มีแต่สายตาสั้น เมื่อทุกคนจบมาแล้วผ่านการฝึกที่ดีทุกคนจึงมีคุณภาพ ผมผ่านผมเห็นและผมก็รู้ว่าไต้หวันเจริญเติบโตมาได้เพราะทรัพยากรบุคคลของเขานั่นเอง ผมจึงนำมาใช้กับหลาน ๆ ผมทุกคนว่าทุกคนจะต้องเรียนหนักที่สุด เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศไทยให้ได้ เมื่อจบปริญญาตรีในประเทศไทยแล้ว ถึงจะมีนโยบายให้พวกเขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศจนถึงปริญญาเอก การจบปริญญาตรี เขาโตแล้ว เราไม่ค่อยเป็นห่วง เรื่องติดยา ติดเอดส์ หรือท้อง เพราะพวกเขาจะสามารถเรียนรู้ชีวิตไกลบ้านด้วยตัวเองได้แล้ว เขาจะต้องหัดเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ได้ เมื่อเขาโต จะมีภูมิคุ้มกันดี ผมแทบจะไม่กังวลอะไรเลยกับคนในครอบครัวผม เพราะทุกคนผ่านการฝึกที่ดี ฉะนั้นถ้าหากทุกคนเรียนเก่งก็จะไม่มีปัญหายาเสพติด ไม่มีปัญาเรื่องใช้เงินเรื่อยเปื่อย ผมเชื่อว่าหลักการและวิธีการฝึกอย่างนี้ จะทำให้เด็กของเรามีความเข้มแข็ง มีคุณภาพ วันนี้เด็กแว๊น เด็กสก๊อยต์ จะไม่มี ถ้าทำอย่างที่ผมทำ จะเป็นเด็กดีทั้งหมดเลย ผมเลี้ยงน้อง เลี้ยงหลานมาเกือบ 50 คน ปัญหามันน้อย ทุกคนจะต้องเรียนเก่ง เรียนเก่งอยู่ทีการฝึกอบรม ไม่ใช่ดวง การวางแผนนั่นเองครับ

วันโน้น คุณประภัสสร เสวิกุล พูด "คนไทยจำนวนไม่น้อยเลี้ยงลูกแบบคุณชาย" ผมเลี้ยงลูกแบบยุคใหม่ ต้องเป็นทุกอย่าง แล้วเด็กก็จะมีภูมิคุ้มกัน

คุณผู้ประกอบการ คนต้นแบบในการทำธุรกิจที่คุณวิกรมยึดเป็นแบบอย่างคือใคร เรื่องอะไรบ้างที่คุณวิกรมนำมาใช้ จนประสบความสำเร็จ

ตอนนั้นเมื่อก่อนโน้นก็ไม่เคยได้ดูซีอีโลกเหมือนทุกวันนี้ ตอนนั้นไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ ที่จริงน่าเสียดายน่าจะมีคนมาเขียนซีอีโลกห้ผมอ่าน ก็จะได้มีคนต้นแบบ ผมมีต้นแบบของการทำธุรกิจคือการสร้างความเชื่อถือ หรือเครดิต (CREDIT)http://www.google.co.th/search?hl=th&q=credit+%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88&meta=&aq=f&aqi=&aql=&oq=&gs_rfai=
ผมเชื่อว่าซื่อกินไม่หมด ควาเชื่อมั่นของคนคือทรัพย์สินคือพลังที่จะขับเคลื่อนพลังชีวิตและอนาคตของมนุษย์ สิ่งที่ผมมีในวันนี้ล้วนมาจากสิ่งที่ผมได้สร้างมาจากความจริง ไม่โกง ไม่เอาเปรียบใครทั้งนั้น ผมมั่นใจว่า ความสัตย์จริงคือสิ่งประเสริฐ คือสิ่งที่นำพาเราเดินไปข้างหน้านำไปสู่ความสำเร็จที่ราบรื่นและภูมิใจ และสุดท้าย เมื่อเรามีเหลือ เราก็ควรจะแบ่งปันให้ผู้อื่น เผื่อแผ่ให้คนที่เขาด้อยกว่า เราจะได้พบความสุขสงบไร้ซึ่งขอบเขต ไร้กาลเวลา ไม่มีอะไรที่เราจะต้องไปแอบแฝง เราก็จะมีชีวิตอย่างแท้จริง ไม่มีมลทิน นอนหลับตอนกลางคืน เหมือนหลับอยู่บนสวรรค์ ไม่ต้องกังวลหรือทุกข์ใด ๆ เหมือนเราบริโภคอาหารทิพย์เข้าไปในจิตใจเสมอ ฉะนั้นในกิจการใด ๆ หากเราวางเสาเข็มแห่งความจริงใจ ซื่อสัตย์ และมีเหตุผล อนาคตแห่งความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน หลักการของผม ใช้วิธีนี้นำร่องและทำให้ผมเดินทางไปข้างหน้า เดินทางไปอย่างไม่เหนื่อยมาก และประสบความสำเร็จในบั้นปลายชีวิตในช่วงสุดท้าย

ศูนย์อำนวยการ ขออนุญาตไม่แกะนะคะ

ขอบคุณคุณตาวิกรม คุณน้องวิชัย และทีมงาน CEO VISION ทุกท่านค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น