วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

CEO VISION ศุกร์ 7 พค.53

CEO VISION ศุกร์ 7 พค.53ส่งความเห็นว่าละคร "ไฟอมตะ" ละครน้ำเน่าหรือน้ำดี น้องดินสอตอนนี้ 6 ขวบ เล่นเป็นคุณฟ้ง (ผู้กำกับเลือกเพราะน้องเค้าร้องไห้ได้เก่ง)
ตอนแรกผมเข้าใจว่าใช้น้ำตาเทียมใส่ให้น้องดินสอ แต่ร้องไห้กันจริง ๆ (น้องช็อปเปอร์ ช่วงเป็นวัยรุ่นหรือคะ)

หนังสือซีอีโลก มาแจกกัน เล่ม 6 เกี่ยวกับศิลปินและนานาอาชีพหลายอย่างรวมกัน
คำถามดี ทันสมัยเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเองและสังคม ส่งมากันเยอะ ๆ นะครับ ceofanclub@yahoo.com


calling melody ไฟอมตะ

คุณพิชัย เพราะเหตุใดจำนวนของอาชญากรรุ่นเยาว์ที่ก่อคดีร้ายแรงถึงเพิ่มมากขึ้น พอขึ้นศาลก็มีการลดหย่อนโทษให้
คุณวิกรมมีแนวทางแก้ไขอย่างไรที่จะไม่ทำให้เด็กเหล่านี้เป็นอาชญากรเมื่อเติบโตขึ้น ไม่ให้เป็นอาชญากร

ตอบ นี่มันเป็นทั่วโลกเลยนะ ผมคิดว่าถ้าเราพูดถึงอาชญากรวัยรุ่น อาชญากรวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ผมเข้าใจเข้าไปสู่วัยผู้ใหญ่ มาจากปัญหาการหย่าร้างของพ่อแม่ที่มีลูกในขณะที่ตัวเองยังไม่พร้อม ลูกที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมที่อ่อนแอไม่เข้มแข็ง ก็จะทำให้เด็กเหล่านั้นหรือเยาวชนก็สามารถสร้างความผิดพลาดจนกลายเป็นความรุนแรงได้ เพราะไม่มีความผูกพันกับครอบครัว เรื่องพ่อแม่ เรื่องพี่น้อง ผมยังจำได้ตอนที่ผมมีปัญหานะคุณวิชัย
ทั้งพ่อแม่ ตอนที่ผมมีปัญหาเหมือนในหนังตอนนั้นที่ผมกำลังจะไปฆ่าพ่อ ก็เพราะว่าถ้าไม่มีเรื่องแม่พีน้องมาฉุดรั้งความคิด ผมก็จะกลายเป็นคนที่สามารถก่อความรุนแรงได้เช่นกัน ผมคงไม่ต่างกับอาชญากรที่กำลังขยายตัวในสังคมที่กำลังมีอยู่ในทุกวันนี้ทั่วไปเลย ปัญหาสังคมไทยในวันนี้ ผมพูดได้ว่านี่คือผลงานของอดีตผู้ใหญ่ที่ทิ้งความผิดพลาดของการกระทำโดยไม่นึกผลร้ายของเด็ก ๆ ที่จะตามมา ถือเป็นเรื่องที่คนในสังคมที่เรา ๆ ทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างผมหรือทุก ๆ คน ควรจะต้องหันหน้ามาให้ความสนใจอย่างแท้จริง ตอนนี้ผมว่าตอนนี้เรียกว่าสายไปแล้วสำหรับการที่เราจะมาพูดหรือเราจะมาทำอะไร แต่ถ้าเราคิดว่าเราจะทำอย่างที่ว่า ไม่มีอะไรสายสำหรับวันนี้ ถ้าเราคิดว่าเราจะทำทุกอย่างในโลกนี้ย่อมมาจากหนึ่ง ฉะนั้น ต้องเริ่มจากตัวเราเองกันทุกคนได้ ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ถ้าคนไทยทุกคนไม่ช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศเราแล้วใครในโลกนี้เขาจะมาช่วยเราบ้างอย่างเช่นผมเขียนหนังสือ "ผมจะเป็นคนดี" ส่งให้กรมราชทัณฑ์ 30,000 เล่มเพื่อจะให้นักโทษตอนนั้นมีอยู่สัก 180,000 คน ได้อ่าน ในขณะเดียวกันผมก็ส่งให้กรมพินิจ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดูแลเด็ก ๆ ส่งไป 55,000เล่มให้วัยรุ่นอ่าน อดีตที่ผิดพลาดของผมน่าจะเป็นข้อคิดเป็นแนวทางให้คนที่เขาเดินทางผิดได้มีกำลังใจได้รู้ว่าจะปรับแก้ไขและเดินทางไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น แล้วจะเป็นคนดีของสังคมได้อย่างไร ถ้าเรามาช่วยกันทำ อย่ามองว่าไกลตัวเรา เราต้องมองว่านี่คือประเทศไทยของเรา
เราต้องทำเพื่อลูกเพื่อหลานเรา อะไรเป็นสิ่งที่ดี ทำไปเถอะครับ ทำความดี ทำบุญไม่ต้องหวังได้บุญ ทำกันคนละไม้คนละมือ จะได้ในสิ่งที่สร้างสรรค์สังคม เราก็มีความสุขด้วยครับ

คุณวุฒิ ปัญหาสองมาตรฐานของรัฐบาลที่ นปช.กล่าวหา คุณวิกรมคิดว่า เราควรจะมีมาตรฐานเดียวกันอย่างไร(ร้อน ๆ นิด ๆ)

ตอบ ประเทศไทยมีสองมาตรฐานตั้งแต่เริ่มเปิดประเทศ ไม่ใช่มาจากรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง เรามีเรื่องคำว่า "ลูกทาส" ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 สมัยนั้นถ้าใครมีเงิน และทาสถูกซื้อตัวไป เช่น ถ้าคุณวิชัยเป็นทาสในสมัยนั้น คุณวิชัยต้องทำงานให้เขาทั้งชาติเลยนะ มันกว้างมาก คำว่าเลิกทาส เริ่มจาก ปธน.ลิงค์คอน ร.5ก็นำความคิดนี้มาใช้กับประเทศไทย (โดยค่อย ๆ เลิกทาส เขียนเป็นประกาศ เลิกทาสค่อย ๆ ลดค่าตัวของทาสไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ทำไปหลายปี ไม่ได้เลิกทาสเสียในคราวเดียวกัน)ซึ่งถือว่าเป็นการเลิกทาส เรามีสองมาตรฐานมานานแล้ว ปัจจุบันนี้ขึ้นอยู่กับว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาลจะได้ความสะดวกสบายมากกว่าปกติ นี่เป็นต้นเหตุของคนจำนวนมากอยากจะเข้าไปเกาะนักการเมือง พวกที่เดินตามนักการเมือง เป็นเหลือบ เป็นเหาฉลาม พวกนั้น เข้าไปเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือเสริมอำนาจบารมี จนเกิดเป็นการกระทำอะไร ๆ ที่ง่ายกว่าคนทั่วไป คนพวกนี้ เลยสร้างเป็นสองมาตรฐาน พวกเดินตามเป็นขบวน เยอะเหลือเกินเป็นพวกเหลือบ เราต้องมาดูว่าคนที่พูดสองมาตรฐานนี่เป็นใคร ถ้าเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล แน่นอนก็อาจจะลำบากหน่อย ถ้าเป็นพวกเดียวกับรัฐบาล เรียกว่ามีเส้น พวกนั้นก็ง่าย ถ้าพูดถึงเรื่องความยุติธรรมมาแฉมาว่ากันว่ามันเป็นอะไร มีเหตุผลอะไรบ้าง เพราะว่าเราเป็นประเทศและเป็นโลกแห่งความยุติธรรม เหตุอะไรที่รัฐบาลไม่ให้ความเป็นธรรม เราต้องมาพูดมาแสดงออกให้สังคมรู้ เพื่อนำไปหาคำตอบ เพื่อนำไปหาทางแก้ไขอย่างมีเหตุผล หากรัฐบาลยังนิ่งเฉยผมคิดว่าเราต้องมาประจานกัน เราต้องต่อว่ากันในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยการที่เราไปต่อว่าหรือประจานรัฐบาลนี่ แต่ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ไม่ใช่ดีไม่ดีก็ปิดถนน ดีไม่ดีก้ยึดสถานที่ต่าง ๆ ผมว่าความคิดเหล่านั้นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง จะไปว่าเขาสองมาตรฐาน และตัวเองกี่มาตรฐาน เราต้องเอาอกเขาอกเรามาชั่งกัน รัฐบาลเราวันนี้ในเมืองไทยมีสองมาตรฐาน หรือรัฐบาลก่อนโน้นหรือรัฐบาลนี้ก็มีสองมาตรฐานทั้งนั้นแหละครับ
ถ้ามันมีแล้วมันไม่ถูกต้องผมว่าเราก็ต้องมาพูดคุยกันแล้ว ทางออกที่ดีที่สุดของการแก้ไขปัญหาก็คือต้องคุยกันอย่างมีเหตุและผล และต้องยอมรับในสิ่งที่เป็นจริง อันนั้นคือทางออกที่ถูกต้อง แต่ไม่ควรทำให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน อันนั้นคือความไม่ยุติธรรม

คุณอนันต์ ในฐานะที่เป็นซีอีโอของอมตะ คุณวิกรมคิดว่าซีอีโอขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ มีส่วนในการช่วยจัดการวิกฤตของชาติหรือไม่ ทำได้อย่างไรครับ

ตอบ ใช่สิ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นหรือไม่ได้เป็นซีอีโอ ทุกคนถือว่ามีส่วนในการจัดการหรือช่วยเหลือวิกฤตของชาติได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นซีอีโอ แม้กระทั่งผู้ใช้แรงงานก็ถือว่ามีส่วนช่วยทั้งนั้น ผมคิดว่าสังคมจะอยู่ได้ด้วยประชาชนและองค์กร การรวมตัวของกลุ่มประชาชนก็คือการ
ถือว่าเป็นองค์กรหรือว่าเป็นสังคมนั่นเอง ฉะนั้นทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือองค์กรใด ๆ ควรที่จะมีบทบาทช่วยเหลือสังคมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปของการแสดงความคิด สื่อให้สังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางสร้างสรรค์ไปในทางที่ดีขึ้นด้วยการเสนอข้อคิด ข้อแนะนำ จะทำในสิ่งทีเป็นรูปเศรษฐกิจ ตรงนี้เป็นเรื่องที่เราควรจะต้องทำ ล้วนแต่มีประโยชน์ ช่วยลดปัญหาในสังคมที่เรากำลังเกิดทั้งสิ้น โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ เรื่องความถูกต้องของการกระทำใด ๆ ที่เราเห็นว่าอันนี้ทำถูกรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นลูกหลาน ญาติ หรือเพื่อนฝูง หน้าที่ของเราที่ทุกคนจำต้องมี ถ้าเรารู้ว่าเขาทำไม่ถูกเราต้องแนะนำให้เขาอยู่ในความถูกต้องให้เขามีสติ ให้เขาทำในสิ่งที่ไม่ทำร้ายสังคม เราต้องเตือนให้เขาทำแต่ในสิ่งที่สร้างสรรค์ ตอนนี้สังคมไทยกำลังเกิดปัญหาไม่มีความสงบสุข เพราะว่าคนไทยจำนวนมากไม่รักษากฎเกณฑ์ กติกาของกฎหมายนั่นเอง

คุณภูนเรศ คุณวิกรมคิดว่าประเทศไทยของเรา จะเหมือนกับอาร์เจนตินาหรือไม่ เพราะดูเหมือนจะมีปัญหาจากนโยบาย
ประชานิยม

ตอบ ก็คงคล้าย ๆ กัน วันนี้ใครที่เป็นนักการเมือง มีพื้นฐานอยู่อย่างหนึ่งของนักการเมือง คือ ต้องการอยากอยู่ในตำแหน่งนักการเมืองให้นานที่สุด ก็เอาเรื่องอะไรที่เป็นงบประมาณของรัฐบาลไปสร้างประโยชน์ แน่นอนในประโยชน์นั้น ๆ ก็มีเยอะที่แอบแฝงไปในลักษณะของ
ประชานิยม ซึ่งเขาก็ทำกันเยอะ แต่จะโฉ่งฉ่างหรือสร้างฐานทางอนาคตของตัวเอง ให้กลายเป็นแบบ monopoly หรือผูกขาดก็มักจะไม่ทำถึงขั้นนั้น
ในเมืองไทยกำลังเป็นแบบนั้น ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นในรูปของบริษัท ซึ่งอาจจะมีซีอีโอสักคนหนึ่งเป็นเจ้าของบริษัท แล้วก็ตั้งญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงของตัวเองมาเป็นผู้บริหารของบริษัทนั้น ประเทศไทยมีกึ่ง ๆ จะเป็นอย่างนั้น ลองไปสังเกต กลับมาดูประเทศไทยของเรา โดยพื้นฐานจิตใจของคนไทยเป็นคนจิตใจดี รักความสงบ และไม่ทำอะไรรุนแรงครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดความขัดแย้งมากมายและยืดยาวขนาดนี้ โดยความเป็นจริงแล้ว หากทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติอุปนิสัยของคนไทยแท้ ๆ มันไม่ควรที่จะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทุกอย่างล้วนแต่มีเบื้องหลัง มีที่มาทั้งสิ้น ที่ทำให้เกิดเป็นกระแส กลายเป็นขบวนการในการต่อรอง เรียกร้อง จนตรงนั้นกลายเป็นประเด็น และสร้างความเสียหายต่อระบบการปกครองที่เป็นระบบระเบียบของสังคม คนที่ทำงานทำอะไรทุกอย่างย่อมได้ประโยชน์จากการดำเนินการไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายหรือหลังจากที่กระทำการพวกนี้สำเร็จแล้ว ก็ต้องมีผลตอบแทน
ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นในรูปแบบนั้นนะ ผมยังหวังว่าจิตใต้สำนึกของคนไทยยังเป็นชนชาติที่มีจิตใจดีงาม เอื้ออาทร ไม่น่าจะขยายให้มีความรุนแรงไปมากกว่าที่เป็นในปัจจุบันหรือหนักเข้าไปที่เรามาพูดกันคราวก่อนเรื่องสงครามกลางเมืองแล้วก็ทำลายล้างกัน จนกระทั่งกลายเป็นความเสียหายของชนชาติเรา
ผมคิดว่าตอนนี้ ผมคิดว่าเราเห็นภาพแล้วเรื่องปรองดองอะไรก็ดี และจะหยุดอยู่แค่ตรงนี้ไป ไม่น่าที่จะบานปลายไปถึงขนาดนั้น แน่นอนครับตอนนั้นอาเจนตินาร์ เขาก็มีเรื่องประชานิยมที่เราก็ได้ทำกัน และเป็นกันจนกระทั่งไม่ลืมหูลืมตา อันนั้นเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าจะเราก็ไม่น่าจะร้ายแรงไปถึงขนาดนั้น เพราะว่าความมันแตก และปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่ามีเราอาจจะมีจุดยุติแล้วครับคุณวิชัย ตัวอย่างเห็นได้จากทั่วโลก แต่บางทีคนไทยก็ไม่ค่อยนำมาใช้เท่าไหร่นะครับ

เสียงรอสาย AIS กด *789216100980003 กด send หรือโทรออก 12 บาทต่อเพลง
TRUE กด *412999 กด send โทรออก


คุณนิภา ดิฉันสนใจเรียนภาษาอังกฤษ ตอนนี้อาย 45 ปีแล้ว อยากฟังคำแนะนำจากคุณวิกรมว่าดิฉันควรตัดสินใจเรียนภาษาหรือไม่ แล้วจะนำไปประกอบอาชีพอะไรได้บ้างคะ

ตอบ ก็ที่จริงคนจีนเขาบอกว่าอยู่จนแก่ก็เรียนจนแก่ ไม่มีใครแก่เกินที่จะเรียน การมีความรู้ถือเป็นสิ่งทีดีมีประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องภาษา ถ้าเราพูด อ่าน เข้าใจอะไรได้มากเพิ่มขึ้นอีกภาษาหนึ่ง ก็ถือว่าเรามีอุปกรณ๋ในเรื่องการสื่อสารมากขึ้นอีกหนึ่งอย่าง ทำให้เราจะมีโอกาสทำอะไรได้มากขึ้นกว้างขึ้น หูตาก็กว้างขึ้น เมื่อเราเข้าใจ เราเห็นอะไรได้ง่ายขึ้น หากเราดูว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาโลก เป็นภาษาในวงการค้า คนในวงการธุรกิจโลก มักจะใช้มากที่สุดเป็นภาษาหนึ่ง แน่นอนเราก็จะค้าขายได้กว้างขึ้นจะมองเห็นลู่ทางได้เยอะขึ้น ไม่ว่าประเทศไหนก็จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาใช้ในการติดต่อการค้าเสมอ ผมจึงอยากแนะนำให้เรียนภาษาอังกฤษ ที่สำคัญคุณนิภา โอ๊ย 45 ยังแจ๋ว ยังมีประโยชน์นำไปใช้ได้เยอะแยะ แล้วเราก็จะเห็นลูกทางที่เราจะทำอะไรก็ได้ หลังจากที่เราพูดเราฟังได้ แล้วเราก็แสดงออกได้เป็นภาษาอังกฤษ ผมว่าอาชีพต่าง ๆ เดี๋ยวก็จะเกิดขึ้นมาเองล่ะครับ

คุณภัคจิรา บุญจันทรานุรักษ์ (ยอดเยี่ยม)คำถาม ส่งชื่อและนามสกุลมาพร้อม ขณะนี้ประชาชนคนไทยแตกแยกเป็นหลายสีหลายความคิด เราจะดำเนินชีวิตและประกอบกิจการให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร คนรอบข้างของดิฉันเครียดมาก จะได้นำคำตอบของคุณวิกรมไปถ่ายทอดเป็นวิทยาทานต่อไปค่ะ

ตอบ ก็ปัจจุบันนี้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ผมก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 เมษายนปีที่แล้วจะเตือนให้คนไทยมีสติ ที่จะไม่ทำให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ และถ้าจิตใต้สำนึกของเราดีพอ ปัญหาไม่น่าที่จะขยายไปถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ที่จะเป็นสงครามกลางเมือง ผมคิดว่าภายในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้าทุกอย่างจะจบหมด และก็นำไปสู่จุดที่ทุกคนยอมรับได้ และผมก็คิดว่าน่าจะเป็นทางลงที่สุดของปัจจุบันนี้ แต่ผมเป็นห่วงเรื่องการเลือกตั้งว่าครั้งหน้าจะมีการปัญหาเรื่องการหาเสียงว่าจะมีการซื้อเสียง จะมีการทำร้ายกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของไทย แน่นอนเรื่องที่สำคัญที่คือก็คงจะเป็นเรื่องใช้เงินซื้อเสียงมากที่สุด รัฐบาลใหม่อาจจะมาจากรัฐบาลที่มาจากการใช้เงิน ฉะนั้นความโปร่งใสหรือการได้รับการยอมรับจากสังคม
อาจะมีปัญหา ผมคิดว่าความวุ่นวายอาจจะเกิดขึ้นอีก เพราะว่าการเมืองไทยมันเหมือนเป็นธุรกิจ เมื่อมันเป็นอย่างนี้ก็เป็นสิ่งที่คนมีเงินมีอำนาจอาจเข้ามาในรัฐบาลหน้าอีกได้ ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างนั้น ก็จะเกิดการประท้วงอะไร ๆ ที่มันไม่มีกฎเกณฑ์เหมือนตั้งแต่ทำมาแล้วหลาย ๆ สี ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีแดง ตอนนี้หลากสียังไม่ได้ทำ ทำเพียงแค่มาแสดงข้อคิดเห็นเท่านั้นเอง กีฬาสีของเมืองไทยจะกลายเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องไป ผมเป็นห่วงซึ่งหน้าในงวดหน้ามันเป็นอย่างนั้นจริง อาจจะเกิดสิ่งที่ตามมาเช่นเหมือนเคยเกิดในอดีตที่ผ่านมาไม่นานนี้เองครับ

คุณขวัญ หนูมีแฟนที่มีอายุต่างกันมาก ๆ 18 ปี คบมาแล้ว 8 ปีค่ะ ตอนนี้หนูอายุ 28 ปีค่ะ เราจะไปด้วยกันตลอดรอดฝั่งหรือไม่คะ แถมยังเกิดปีชงกันอีกต่างหาก

ตอบ ผมคิดว่าการคนที่คนสองคนจะไปด้วยกันได้หรือไม่ คงไม่ใช่เรื่องของการเกิดปีชงหรืออายุมากน้อยเป็นหลัก ผมไม่เชื่อเรื่องปีชงอะไรทำนองนั้น ผมพูดอะไรอย่าเชื่อผมทั้งหมด พูดในมุมมองของผมเท่านั้นนะครับ อายุน้อยมากไม่ได้เป็นประเด็น อยู่ที่ความคิดหรือมีเป้าหมายของการคบกันว่าตรงกันหรือไม่ หลังจากคบกันมานาน 8 ปี คงจะรู้จักนิสัยใจคอกันอย่างลึกซึ้ง เรากับเขาเข้ากันได้ไหม มีจุดอ่อนจุดแข็งมีจุดดีที่จะมาเสริมกันได้หรือเปล่า จะพอเดาได้ว่าจะไปด้วยกันได้หรือไม่ นั่นคือสิ่งที่คุณขวัญจะต้องมองออกว่านิสัยเขาเป็นอย่างไร แต่ถ้าโดยภาพโดยทั่วไป นิสัยทั่วไปโดยขั้นพื้นฐนจะชอบผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า ผู้ชายโดยธรรมชาติจะเป็นประเภทรักง่ายหน่ายเร็ว (แล้วคุณตาวิกรมล่ะคะ รักง่ายหน่ายเร็วเหมือนกันหรือเปล่าคะ)ผู้ชายกับผู้หญิงที่คบกันตั้งแต่สมัยที่เป็นวัยรุ่น พวกนี้จะไปไม่ค่อยตลอดรอดฝั่งในยุคปัจจุบันนี้ พออายุ 40 กว่าผู้หญิงก็เริ่มเสียเปรียบใช่ไหมคุณวิชัย แล้วยิ่งผู้หญิงคนไหนมีลูกด้วยแล้ว โอ้โหยิ่งลำบาก ความได้เปรียบของคุณขวัญเอ๊าะ ๆ กว่าตั้ง 18 ปี ได้เปรียบโดยธรรมชาติ น่าจะเข้าใจรู้จักอุปนิสัยของแฟนได้ดี
ถ้าความคิดเห็นไม่ตรงกันอาจจะมีปัญหา ดูความเป็นจริงเป็นหลัก สิ่งที่เรากับเขาเข้ากันได้ไหม สิ่งที่สังเกตง่าย ๆ ว่า เขาชอบหรือเกลียดไม่ชอบอะไร ค้นหาได้จากการพูดคุยกัน เข้าใจกัน ต้องพูดคุยกัน ถ้าเป้าหมายถ้าจะคบกันในระยะยาว หาข้อมูลชอบ ไม่ชอบอะไร หลีกเลี่ยงทำในสิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ชอบ อันนั้นก็จะช่วยให้อยู่กันอย่างยืดยาว เป็นแนวคิดสำหรับคู่อื่น ๆ ด้วยนะครับ (แล้วคู่ของคุณวิชัยล่ะคะ (หาเจออ๊ะยัง))ส่งคำถามแนวนี้เข้ามาเยอะ ๆนะครับ ผมรออยู่ (เมื่อไหร่คุณวิชัยจะส่งคำถามเข้าประกวดเองซะทีคะ)

คุณจินตนา วรจรรยาวงศ์ อ.เมือง นครปฐม ลูกชายอายุ 8 ขวบ ได้ดูละครไฟอมตะพร้อมกับดิฉัน ตอนอาฟ้งฝากเงินกับแม่ตอนช่วงตรุษจีน และทวงถามเงินที่ฝากไว้ก็เอาไปซื้อขนม แม่กลับบอกว่าไม่มี ก็เงินที่เอ็งกินขนมอยู่ทุกวันนี้ก็เงินของเอ็งไง ลูกชายหันมาถามว่า แม่ผิดหรือลูกผิดกันแน่หมะม๊า

ตอบ อายุ 8 ขวบ หัวอกเดียวกันกับผม โดยความจริงแล้ว แม่พึงจะต้องให้เงินค่าขนมลูกวันละสลึงไปโรงเรียน ตอนนั้นถ้าผมไม่ได้ไปโรงเรียนแม่ก็ไม่ให้ตังค์ ผมได้อั่งเปามาจากทางญาติไม่ใช่จากแม่ถือเป็นเงินส่วนตัว เมื่อผมเอาเงินไปฝากแม่ เพื่อความมั่นใจ กลัวเงินหาย และไม่ได้เอาเงินไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ต้องการเก็บออม คุณแม่ต้องให้กำลังใจ ถ้าคุณแม่ไม่พร้อมควรบอกแต่แรก ไม่ใช่รับเงินแล้ว บอกลูกว่าลูกเป็นเด็กดี ความเข้าใจของเด็กอาย 4-5 ขวบคือการฝากเงิน ฝากเงินกับแม่ ไม่ใช่เอาเงินให้แม่ มันคนละอันกัน เมื่อได้รับคำตอบ "แล้วเงินที่ฝากก็จ่ายเป็นค่าขนมเอ็งทุกวันแล้วไง" ผมตกใจมาก ๆ ตอนนั้นจำนวนเงินมหาศาลสำหรับเด็กอายุน้อย กับความรู้สึกที่ไม่เคยมีเงินมากเท่านั้นมาก่อน ความรู้สึกมีมาก เหมือนถูกคนที่เชื่อใจไว้ใจมากที่สุดในชีวิต มาทำให้ผมเสียใจ จนไม่รู้จะทำอะไรได้ ช็อคสุดๆ ในชีวิตครั้งหนึ่ง ถึงปัจจุบัน กว่า 52ปี แล้ว ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี อึดอัด สูญเสียอย่างบอกไม่ถูก เป็นการทำลายความเชื่อมั่นที่ผมมีกับแม่ทั้งหมด พูดไม่ออก บอกไม่ถูก หัวใจแตกสลาย กับการเสียเงิน 40 บาท ซึ่งมันมีความหมายมากสำหรับ ผมอยากให้พ่อแม่อย่ามองข้ามความรู้สึกของเด็ก ๆ อย่าทำอะไรโดยไม่คิดถึงความรู้สึกหรือหัวใจของเด็ก ๆ ถึงแม้จะเป็นเด็กอายุ 4-5 ขวบก็ตาม เป็นความทรงจำที่สร้างแผลลึก ๆ ใหญ่ ๆ ให้กับเด็กได้ และแม้เวลาล่วงเลยมากกว่า 50 ปีแล้ว ผมยังจำถึงความรู้สึกที่แย่มาก ๆ เหมือนตอนนี้อาจจะรู้สึกล้มทั้งบริษัทเลย เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องคิดถึงหัวอกลูก อย่าคิดว่าเขาเป็นเพียงเด็กเด็ดขาด เพราะเด็กสมัยนี้มีความคิดเจริญก้าวหน้าไปกว่าเราเยอะ เขาเป็นตัวของตัวเองเยอะมาก ต้องให้ความยุติธรรมกับเด็กด้วยเหมือนกัน เด็ก ๆ สมัยนี้ไม่ธรรมดา ยิ่งหลาน ๆ ผม สิ่งที่เขาพูดออกมามันมาก (น่าจะหมายถึงเหตุผล) มากกว่าอายุของผมเท่าหนึ่งในตอนโน้น พวกเขาฉลาดมาก อย่าไปโกงเขา

ดูละครไฟอมตะ แล้วส่งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ มุมมองเข้ามาได้เหมือนกันนะครับ

คาถาชีวิต ความรักจะมีได้หากใจเราเปิดกว้าง เพื่อรับความไม่เหมือน
และไม่ใช่ของเรา

ความรักเราสามารถให้กับคนทั้งโลกได้ โดยไม่จำเป็นว่าคนนั้นจะต้องเป็นลูกหลานเรา เป็นเพื่อนฝูงเรา เพราะความรักเป็นสิ่งประเสริฐ เป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ ถ้ามนุษย์มีความรักมีความเอื้ออาทรฉันใด โดยที่เราไม่ใจแคบ เราเปิดใจกว้าง สันติสุข ความสงบสุข ความเจริญรุ่งเรืองของสังคม ก็จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไม่ยาก เพราะมนุษย์ทุกคนมีความรักนั่นเองครับคุณวิชัย

คุณจินดา ถ้าเรามีห้องเป็นสำนักงานใต้อพาร์ตเม้นท์ 500 ห้อง เรามีห้องอยู่ใกล้อพาร์ตเม้นท์ ธุรกิจอะไรที่น่าสนจะทำคะ

ตอบ การจะทำอะไรขึ้นอยู่กับว่าทำเลตรงนั้นเหมาะกับการทำอะไร เช่น ทำเลตรงนั้นเป็นที่พักอาศัย เราก็น่าจะทำด้านที่พักอาศัย แต่ถ้าทำเลนั้นเป็นที่ทำงาน อาจจะดูว่าเหมาะสมกับที่ทำงานหรือไม่ บางครั้งทำเลของที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณที่ทำงาน ก็เป็นที่พักอาศัยได้ เพราะคนทำงานก็อยากจะมีที่พักอาศัยอยู่ใกล้ๆดูสิ่งแวดล้อม เช็คตลาด 1.ห้องที่เขามีอยู่ในธุรกิจนั้น ๆ มีเหลือไหม เต็มหรือเปล่า มีคนอยากมาเช่ามากไหม ยังมีคนรอ standbyถ้ามีเยอะ แสดงว่าตลาดตรงนั้น,เราจะทำธุรกิจแบบนั้น โอกาสที่จะผิดพลาดก็จะน้อยลง ทำร้านอาหารตามสั่งดีไหม หรือจะหาคนมาลงทุนก็ติดต่อคุณจินดาได้นะคะ

คุณอรุชา มีลูก 4 คน 3คนผู้ชายเรียนจบแล้ว เห็นชีวิตประจำวันของเขา เขาทำงานร้านอาหาร เค้าไม่อยากกลับมาเมืองไทย
มีทางใดที่จะแนะนำ เขาแพ้อากาศ สิงหาคมนี้เขาจะต้องย้ายที่พัก อยากทำร้านอาหารไทย วิธีนี้เป็นอย่างไรคะ

ตอบ ผมว่าเด็ก ๆ วันนี้ต้องปล่อยเขา เด็ก ๆ ยังอยากทดลอง ทดสอบ เวลาเขาจบแล้ว ถ้าเขาแพ้อากาศ ถ้าเขายังไม่อยากกลับมาต้องปล่อยเขาไป โลกกว้าง ที่ไหนดี ที่ไหนอยู่แล้วมีความสุข ก็ให้เขาทำไปจะทำร้านอาหารหรือไม่ เด็กเพิ่งจบมาอย่าเพิ่งให้เขาลงทุน เพราะโอกาสเสี่ยงเยอะ เพราะเขายังทำไม่เป็น ทำงานที่อื่นให้เขามีความรู้ที่เขาอยากจะไป แล้วค่อยมาศึกษาเรื่องการลงทุน

เสาร์-อาทิตย์ ช่อง 9 20.40 น. ละคร "ไฟอมตะ"
ขอบคุณคุณตาวิกรมและคุณวิชัย และทีมงาน CEO VISION ทุกท่านค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น